คุณแม่ลูกอ่อนทั้งหลายคงจะทราบกันดีเลยว่า การดูแลลูกน้อยในช่วงทารกนั้นใช้เวลาและใช้พลังงานเป็นอย่างมาก เวลาทั้งหมดของคุณแม่นั้นต้องนำมาทุ่มเทให้เจ้าตัวเล็กแทบจะ 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้ ดังนั้น บทความในวันนี้ทีมงานของเราจะอยากจะมาแชร์เรื่องราวของตัวช่วยพิเศษ ที่สามารถทวงคืนเวลาส่วนตัวให้คุณได้ ซึ่งตัวช่วยที่ว่าก็คือ ‘เปลโยก’ นั่นเอง
เปลโยกสำหรับเด็กเล็กนั้นเอาไว้ใช้สำหรับกล่อมให้ลูกนอน หรือนั่งเล่นอยู่เฉย ๆ โดยไม่ขยับก็ได้ ซึ่งในปัจจุบัน ก็มีเปลโยกวางขายกันอยู่มากมายหลากหลายรูปแบบ มีทั้งแบบระบบไฟฟ้าและแบบไม่ใช้ไฟฟ้า แถมบางรุ่นยังมีของเล่นเด็กมาให้ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย ฉะนั้น ถ้าลูก ๆ อยู่ในเปลล่ะก็ จะไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่ในขณะที่กำลังทำงานบ้าน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่อย่างแน่นอน แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อเปลโยกมาใช้งานนั้น ก็มีสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากมายด้วยเช่นกัน จะมีอะไรบ้างนั้น เราเตรียมคำตอบมาให้คุณพ่อคุณแม่แล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเลือกซื้อเปลโยกเลยคือ ความปลอดภัย และนอกเหนือจากความปลอดภัยแล้ว ก็ยังมีหลักการเลือกซื้ออื่น ๆ ที่เราต้องพิจารณาด้วย ดังนี้
เปลโยกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ แบบไม่ใช้ไฟฟ้า และแบบใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ เปลทั้งสองแบบก็ยังแบ่งออกเป็นแบบพับได้และพับไม่ได้อีกด้วย ซึ่งเราควรตัดสินใจดูให้ดีก่อนซื้อว่า วัตถุประสงค์หลักในการใช้งานเปลโยกของเรานั้นคืออะไร
โดยส่วนมาก เปลโยกแบบไม่ใช้ไฟฟ้ามักจะมีน้ำหนักเบาและมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่สะดวกสบายขึ้นมากเมื่อต้องการใช้งาน จุดเด่นของเปลโยกประเภทนี้คือ สามารถนำไปใช้งานได้ในทุกที่ของบ้านเนื่องจากไม่ต้องการไฟฟ้าในการทำงาน อีกทั้งโครงสร้างของเปลโยกแบบนี้มักจะถูกออกแบบมาให้พับได้และใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย เช่น ปรับให้กลายเป็นเปลเอน เปลนอน หรือเปลนั่งได้ เป็นต้น
ในจุดนี้เองที่ทำให้เปลโยกแบบไม่ใช้ไฟฟ้านี้ถือเป็นเปลโยกในดวงใจของเหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างมาก อีกทั้งน้ำหนักเฉลี่ยของเปลโยกแบบนี้มักอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลกรัมเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้เป็นอย่างดี
เปลโยกแบบใช้ไฟฟ้านี้เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้กล่อมลูกน้อยให้นอนหลับ เพราะหากเป็นไม่ใช้ไฟฟ้า คุณอาจจะต้องคอยไกวเปลเองไปเรื่อย ๆ จนลูกหลับ แต่สำหรับแบบไฟฟ้านี้ เพียงวางลูกลงไปในเปล แล้วกดเปิดเครื่อง ไม่นานเด็ก ๆ ก็สามารถเคลิ้มหลับไปได้ อีกทั้งเมื่อเด็กหลับไปแล้วเปลก็จะยังคงโยกต่อไปเองได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หลับได้มีประสิทธิภาพและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เปลแบบไฟฟ้ามักจะมีน้ำหนักมาก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10 – 20 กิโลกรัมขึ้นไป จึงทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการขนย้ายไปใช้งานนอกสถานที่ อีกทั้งยังต้องใช้งานในบริเวณพื้นที่ที่มีปลั๊กไฟเท่านั้น ซึ่งในปัจจุบันหลายแบรนด์จึงออกแบบรุ่นที่สามารถใช้ถ่านได้สำหรับระบบสั่นเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
หลักการเลือกซื้อเปลโยกอีกประการ คือ คำนึงถึงประเภทที่สามารถใช้งานได้โดยทั่วไปเป็นหลัก แต่หากต้องการฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลาย คุณก็สามารถหาซื้อเปลโยกแบบอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการในการใช้งานได้มากขึ้น แต่ฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้น ก็อาจมาพร้อมราคาที่เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับคนที่ต้องพาลูกติดตามไปข้างนอกด้วยบ่อย ๆ อาจต้องการเปลประเภทที่สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก จึงขอแนะนำให้เน้นเปลที่มีน้ำหนักเบา สามารถพับเก็บใส่รถเพื่อขนย้ายได้สะดวก นอกจากนี้ เปลโยกที่พับเก็บได้จะมีคุณสมบัติเด่นอยู่ที่ความสามารถในการปรับมุมองศาของตัวเปล เพื่อให้สามารถใช้งานได้ทั้งแบบนั่งและแบบนอน และด้วยฟังก์ชันนี้เองจึงสร้างความรู้สึกแปลกใหม่และไม่ทำให้เด็ก ๆ เบื่ออีกด้วย
เปลลักษณะนี้ เป็นการผสมผสานของเปลโยกกับเก้าอี้แบบลงตัวที่สุด เนื่องจากตัวเปลมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นเก้าอี้สำหรับรับนั่งรับประทานอาหารของเจ้าตัวน้อยได้ในไม่กี่ขั้นตอน และยังสามารถปรับเอน ปรับนอนได้ เรียกว่าสะดวกสุด ๆ ในการใช้งาน แถมในบางรุ่นยังมีระบบไกวเปลอัตโนมัติติดมาให้อีกด้วย แต่เปลลักษณะนี้มักมีโครงสร้างที่ใหญ่และพับไม่ได้ จึงไม่เป็นที่นิยมในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่มากนัก
เปลโยกแต่ละรุ่น จะมีขีดจำกัดน้ำหนักสูงสุดที่รับได้แตกต่างกันไป ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในขณะใช้งานของเด็กทารกโดยตรง คุณพ่อคุณแม่คงไม่อยากให้ลูกน้อยนอนอยู่ในเปลที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่ออย่างแน่นอน สำหรับเปลบางรุ่นที่ไม่ได้บอกน้ำหนักสูงสุดที่รองรับได้เอาไว้บนฉลาก แนะนำให้คุณมองหาอายุที่เหมาะสมสำหรับใช้งานแทน เพื่ออ้างอิงความเหมาะสมของน้ำหนักที่รับได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าฉลากระบุเอาไว้ว่ารุ่นนี้เหมาะสำหรับเด็กทารกแรกเกิดจนถึง 12 เดือน ก็หมายความว่า เปลนี้สามารถรับน้ำหนักได้ ไม่เกิน 12 กิโลกรัมเท่านั้น เป็นต้น
นอกจากนี้ เราควรคำนึงถึงขนาดของเปลเพื่อที่จะตั้งไว้ในห้องได้อย่างพอดี รวมทั้งควรเผื่อพื้นที่ไว้สักเล็กน้อยสำหรับการไกวเปลด้วย เพราะหากซื้อขนาดใหญ่เกินไปอาจเกะกะ ไม่พอดีกับตัวห้อง จัดเก็บลำบากหรือไม่สามารถไกวเปลได้อย่างเต็มที่ได้
ในปัจจุบัน เปลที่มีพับได้นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีราคาไม่แพงและสามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น ใช้ได้แม้กระทั่งห้องที่มีพื้นที่จำกัด ซึ่งหากไม่ต้องการใช้งานแล้ว ก็สามารถพับเก็บไว้ในห้องเก็บของหรือซอกแคบ ๆ ได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ในด้านวัสดุของเปลลักษณะนี้อาจจะมีความแข็งแรงน้อยกว่าเปลแบบที่พับไม่ได้ แต่ในเรื่องของความสะดวกสบายในการใช้งานแล้วล่ะก็ มีเยอะกว่ามากทีเดียว
สำหรับผู้ปกครองที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อเปลแบบไหนให้ลูก สามารถพิจารณาจากฟังก์ชันอื่น ๆ ของเปลได้ เพื่อจะได้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น เปลที่สามารถปรับนั่ง-นอนได้, เปลที่มีของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการติดมาให้, เปลที่สามารถเปลี่ยนเป็นเก้าอี้นั่งทานข้าวได้ หรือเปลที่สามารถเปลี่ยนเป็นล้อเลื่อนให้ลูกใช้ฝึกเดินได้ เป็นต้น หากเราลองพิจารณาดูความจำเป็นและสิ่งที่เราต้องการแล้ว ก็จะสามารถเลือกซื้อเปลให้ลูกน้อยได้ง่ายมากขึ้นอย่างแน่นอน
และสิ่งสำคัญอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ เรื่องความสะอาด ควรตรวจสอบว่าเปลโยกนั้นสามารถถอดเบาะออกมาเพื่อนำไปซักล้างทำความสะอาดได้หรือไม่ เพราะเปลโยกถือเป็นที่ ๆ เด็ก ๆ จะต้องหลับนอน และต้องนั่งอยู่ในนั้นวันละหลายชั่วโมง เบาะจึงอาจเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกในระหว่างวันจากเหงื่อ จากน้ำลายไหลของเด็กระหว่างการนอนหลับ หรือจากเศษอาหารในระหว่างมื้ออาหารได้อีกด้วย ดังนั้น เรื่องความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่ปล่อยปละละเลยไม่ได้
จากข้อมูลที่เราแชร์ไปทั้งหมด ลองนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ พร้อมกับดู 10 อันดับเปลโยกที่น่าสนใจที่เรานำมาฝากคุณพ่อคุณแม่ในวันนี้ด้วยได้เลยครับ
จุดเด่นของเปลรุ่นนี้คือการออกแบบมาให้มี 3 คุณลักษณะเด่นอยู่ในเปลเดียว 1 นอนได้ 2 นั่งได้ และ 3 ใช้โยกได้ ซึ่งคุณลักษณะทั้งหมดนี้ถือได้ว่าครอบคลุมทุกช่วงวัยของทารกอย่างครบถ้วนกล่าวคือ ฟังก์ชันนอนก็เอาไว้ใช้สำหรับให้ลูกน้อยนอน ฟังก์ชันนั่งก็เอาไว้ใช้สำหรับให้ลูกน้อยเล่นของเล่นหรือใช้สำหรับป้อนอาหาร
และสุดท้ายฟังก์ชันโยก ก็เอาไว้ใช้สำหรับโยกเพื่อกล่อมลูกนอน หรือแม้แต่เมื่อลูกโตแล้วก็สามารถให้ลูกน้อยโยกเองได้เพื่อพัฒนาทักษะในด้านการเคลื่อนไหวนั่นเอง สุดท้ายเปลรุ่นนี้มีน้ำหนักเบาสามารถพับและพกพาไปใช้นอกสถานที่ได้อย่างสะดวก
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนกำลังมองหาเปลที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคา และใช้งานได้แบบครอบจักรวาล ต้องไม่พลาดเปลรุ่นนี้ ตัวเปลถูกออกแบบมาให้เป็นได้ทั้งรถลาก เปลนั่งเอน และเปลนอน อีกทั้งยังสามารถปรับระดับพนักพิงศีรษะได้มากสุดถึง 3 ระดับ ทำให้คุณสามารถป้อนข้าวป้อนนมลูกน้อยได้ง่าย
และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของเปลรุ่นนี้คือ ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการที่มีมาให้นั้น ไม่ใช่ของเล่นแบบธรรมดา แต่เป็นของเล่นแบบพิเศษที่มีไฟในตัว มีเสียง และสั่นได้ เมื่อลูกน้อยของคุณได้ลองเล่น รับรองได้เลยว่า พัฒนาการจะก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น การที่เด็กเล็กมองเห็นแสง สี และสัมผัสถึงแรงสั่นสะเทือนจากวัตถุใด ๆ ก็ตามได้นั้น จะทำให้สมองของเด็กมีการพัฒนาในด้านการสังเกต และระบบประสาทสัมผัส ได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ถ้าคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาเปลโยกที่มีขนาดใหญ่แต่ยังคงไม่ทิ้งความสะดวกในการพกพาไปไหนต่อไหน เปลโยกรุ่นนี้คือคำตอบ ตัวเปลโยกมาพร้อมเบาะขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับได้ทุกอิริยาบถของลูกน้อย จึงทำให้ลูกน้อยสามารถพลิกตัวหรือขยับตัวไปมาได้อย่างเต็มที่ไม่ตกเปล
นอกจากนี้ตัวเปลยังมาพร้อมระบบการปรับระดับความลาดเอียงของเปลได้ถึง 3 ระดับ ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้เปลโยกเปลนี้เป็นที่ป้อนข้าวลูกน้อยได้ในเวลาเดียวกัน สุดท้ายเพื่อให้ครอบคลุมการใช้งานสูงสุด ตัวเปลโยกเปลนี้มาพร้อมล้อเลื่อนเพื่อช่วยในเรื่องการเคลื่อนที่อีกทั้งตัวเปลสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกให้คุณพ่อคุณแม่ในกรณีที่ต้องการนำเปลไปใช้งานนอกสถานที่นั่นเอง
คุณพ่อคุณแม่บ้านไหนกำลังมองหาเปลโยกที่มีเบาะหนานุ่ม เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด รุ่นนี้ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมทีเดียว เพราะตัวเบาะทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพดีที่มีความหนานุ่ม ไม่ระคายเคืองต่อผิวเด็ก และยังโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี จึงไม่ทำให้เด็ก ๆ ร้อนเวลานั่นหรือนอนนาน ๆ มีดีไซน์หรูหรา สามารถนำไปตั้งไว้มุมใดของบ้านก็สวย มาพร้อมระบบไกวเปลด้วยการสวิงที่มีความนุ่มนวล เสียงเบาเงียบ และมีวงสวิงการไกวมากสุดถึง 85 องศา
รุ่นนี้ถูกออกแบบมาโดยมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบายในขณะใช้งานและเรื่องของความคุ้มค่า เพราะสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 60 กิโลกรัม ถ้าคุณพ่อคุณแม่ซื้อรุ่นนี้ไป รับรองได้ว่าเปลเดียวใช้ได้ยันลูกโตแน่นอน สุดท้าย มาพร้อมฐานรองอะลูมิเนียมที่มีวงฐาน 70 x 76 เซนติเมตร จึงมั่นใจได้ว่ามีความมั่นคง ทนทานและแข็งแรงเป็นที่สุด
เปลไกวอัตโนมัติรุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ตอบรับความต้องการของเหล่าบรรดาคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการเวลาในการทำงานบ้านหรือภารกิจส่วนตัวที่มากขึ้น เพราะมีฟังก์ชันเสริมที่หลากหลายโดยเฉพาะการควบคุมเปลในระยะไกลได้ สามารถปรับระดับความเร็วในการไกวได้ถึง 5 ระดับ และมีเสียงเพลงสำหรับเด็กที่เปลี่ยนเพลงได้อัตโนมัติ มาพร้อมมุ้งกันยุงและฉากกันแสง เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยในขณะที่อยู่ในเปล
ตัวเปลมีระบบความปลอดภัยที่ดี มีสายรัดนิรภัยใช้งานง่าย ไม่กดทับ จึงไม่ทำให้ลูกน้อยไม่สบายตัวเมื่อต้องอยู่ในเปลเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับตุ๊กตาโมบายนุ่มนิ่ม ที่มีทนทานต่อการดึง ไม่ขาดง่าย ใช้สำหรับเสริมสร้างพัฒนาการด้านสายตา และการเคลื่อนไหวของเด็ก ๆ และยังช่วยให้พวกเค้าผ่อนคลายในขณะที่อยู่ในเปล
มาที่เปลโยกอันดับยอดฮิต ที่มาพร้อมคุณสมบัติ 2in1 โดยสามารถปรับใช้งานได้ 2 ระดับ เอนนอนนิ่ง ๆ ก็ได้ ปรับนั่งเพื่อโยกก็ดี ใช้นั่งป้อนข้าวก็ยังได้ มีระบบสั่นที่ช่วยกล่อมโดยใช้แบตเตอรี่ จึงสะดวกต่อการใช้งาน อีกทั้งยังมีการออกแบบให้มีของเล่นมากมายที่มีสีสันสดใสเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ๆ และจูงใจให้ยอมนอนเล่นในเปลได้ บวกกับเสียงดนตรีให้ผ่อนคลาย หลับง่ายและฝึกพัฒนาการฟังเสียงไปในตัว เมื่อคุณเอาลูกน้อยไปวางลงบนเปล ลูกน้อยก็จะลืมรบกวนคุณพ่อคุณแม่ได้ในทันที
นอกจากนี้ ตัวเบาะยังใช้วัสดุ Cotton ผสมเส้นใยโพลิเอสเตอร์อย่างดี ทำให้ไม่ระคายเคืองต่อผิวของเด็กทารก ผิวสัมผัสลื่น นุ่มสบาย ไม่อับชื้น โครงเก้าอี้ทำจากพลาสติก ABS ที่แข็งแรงทนทาน ตัวเปลมีเข็มขัดนิรภัยที่มีความปลอดภัยสูง จึงมั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะปลอดภัยอยู่ตลอดในขณะอยู่ในเปล รุ่นนี้มีให้เลือกหลายสี ที่สำคัญ ราคาย่อมเยา คุ้มค่ากับคุณภาพมาก ๆ อีกด้วย
อีกหนึ่งรุ่นที่ดีไซน์สวยงามล้ำสมัยมาก ๆ จากแบรนด์ดัง Xiaomi ที่มาในรูปแบบเก้าอี้โยกมัลติฟังก์ชันที่ปรับเป็นเปลได้ สามารถปรับระดับนั่งหรือเอนนอนได้ถึง 3 ระดับ มาพร้อมเสียงดนตรีที่กล่อมให้เด็ก ๆ หลับได้อย่างผ่อนคลายถึง 8 เพลง อีกทั้งยังมีรีโมทที่คุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมการทำงานได้จากระยะไกลในขณะทำภารกิจอื่น ๆ อยู่ รุ่นนี้ทำจากวัสดุพลาสติก ABS และโครงเหล็กคุณภาพดี เพราะเบาะจากเส้นใยโพลิเอสเตอร์ที่นุ่ม ยืดหยุ่น ไม่ระคายเคืองผิว และไม่อับชื้น
นอกจากนี้ ยังออกแบบมาโดยเน้นเรื่องความปลอดภัย ตัวโครงสร้างเก้าอี้สามารถรองรับการสวิงในการไกวได้ดี มีตัวล็อกเข็มขัดสองด้านเพื่อความแน่นหนาและปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะไกวเปล เพิ่มเติมด้วยตัวเบาะนอนที่ออกแบบให้เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์ของเด็ก จึงช่วยให้หลับสบายและยังมีประโยชน์ต่อโครงสร้างร่างกายอีกด้วย
เปลโยกเด็กเล็กขนาดพกพานี้ เป็นเปลที่ถูกออกแบบมาสำหรับเด็กอ่อนโดยเฉพาะ ด้วยความที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน จึงสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ทุกคน ตัวเปลมี 2 ฟังก์ชันหลัก ๆ คือ ใช้เป็นเปลเอน หรือเปลนอน สามารถปรับให้โยกก็ได้หรือไม่โยกก็ได้ เมื่อคุณต้องการเอาลูกนอนก็เพียงปรับเป็นแบบโยก เมื่อลูกตื่นคุณก็แค่ปรับให้เปลไม่โยก เพียงเท่านี้ลูกน้อยของคุณ ก็จะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัยในขณะที่กำลังนั่งอยู่ในเปลนั่นเอง
และด้วยความที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้เปลรุ่นนี้เป็นที่นิยมในหมู่คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องออกไปทำภารกิจนอกบ้านกับลูกน้อยอยู่บ่อย ๆ เพียงพับเปลง่าย ๆ ด้วย 2 ขั้นตอน ขนเปลใส่รถ ก็พร้อมออกเดินทางได้ทันที
เปลไฟฟ้ารุ่นนี้ จุดเด่นจะอยู่ที่ความสามารถในการทำให้ลูกน้อยของคุณหลับได้อย่างง่ายดาย มาพร้อมแผงควบคุมหลัก สามารถปรับระดับความเร็วในการไกวได้ 3 ระดับ อีกทั้งคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเลือกเปิดเพลงกล่อมให้ลูกน้อยฟังได้อีกด้วย สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดการทำงานของระบบการไกวได้ถึง 3 ช่วงเวลา คือ 15, 30, และ 45 นาที คุณจึงไม่ต้องกังวลที่จะต้องลุกมาปิดระบบของเปล ทั้งยังควบคุมด้วยรีโมทได้ในระยะไกล
เรียกได้ว่าฟังก์ชันเสริมทั้งหมดของรุ่นนี้ ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ปกครองได้อย่างดี แถมยังช่วยให้ลูกน้อยของคุณหลับเร็ว หลับนาน หลับสบายอีกด้วย ที่สำคัญ ตัวเบาะทำจาก Cotton 100% จึงหนาและอ่อนนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวเด็ก ไม่อับชื้นเพราะระบายอากาศได้ดี มีมุ้งกันยุงและแมลงให้อีกด้วย
เปลโยกรุ่นนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายในการใช้งาน มาพร้อมล้อเลื่อนที่สามารถทำให้เปลกลายเป็นรถเข็นได้ ฟังก์ชันนี้จะช่วยเพิ่มความแปลกใหม่ให้ลูกน้อยของคุณ ในขณะที่นั่งเปล และเมื่อพับล้อเก็บ ก็จะกลายเป็นเปลโยก เอาไว้ใช้สำหรับกล่อมลูกน้อยนอน เพิ่มเติมความพิเศษด้วยบาร์ของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็กอ่อนแถมมาให้อีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่ต้องทราบก่อนว่าการที่เด็กคนหนึ่ง จะมีพัฒนาการช้าหรือเร็ว ก็อยู่ที่การฝึกฝน ถ้าเค้าได้ฝึกมอง ฝึกสัมผัส ฝึกการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ ได้ไว ลูกน้อยของคุณแม่ก็จะสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างมั่นคง และรวดเร็วกว่าเด็กคนอื่น ของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการที่มีติดมาให้กับเปลรุ่นนี้ จึงถือเป็นจุดเด่น ที่ทำให้เปลโยกรุ่นนี้เป็นที่สนใจ ของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลาย
สิ่งที่ผู้ปกครองควรระวังเป็นพิเศษก่อนการซื้อเปลมีดังนี้
ก่อนการซื้อเปลต้องอย่าลืมตรวจสอบให้ดีว่าวัสดุในเปลทั้งหมดที่จะต้องสัมผัสกับผิวทารกไม่ว่าจะนั่งหรือจะนอน จะต้องมีความอ่อนโยน ไม่ทำให้ผิวของทารกเกิดการระคายเคืองหรือเกิดอาการแพ้ได้ แม้แต่ของเล่นเด็กที่มีเสริมมาให้ ก็ควรมีฉลาก GS หรือ GMO ระบุเอาไว้ให้ชัดเจน เพื่อยืนยันว่าของเล่นเหล่านั้นได้รับการรับรองมาตรฐานมาแล้วว่าปลอดภัยต่อทารก
ปัจจุบันมีเปลโยกสำหรับทารกออกมาให้คุณพ่อคุณแม่เลือกกันมากมาย ฉะนั้น ก่อนการเลือกซื้อต้องอย่าลืมคำนึงถึงวิธีการเลือกที่เหมาะสมเพื่อให้ได้เปลที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยของคุณ เนื่องจากทารกเป็นวัยที่บอบบางมาก อุปกรณ์สำหรับพวกเค้าทุกอย่างจึงต้องมีความปลอดภัยมากที่สุด ส่วนเรื่องราคานั้นถือเป็นเรื่องรอง เพราะเปลที่คุณภาพดี ก็อาจจะต้องมีราคาที่สูงขึ้นตามมาด้วย
วันนี้ ทีมงานของเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาแชร์ จะทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทั้งหลายสามารถหาซื้อเปลที่ตรงใจที่สุดเอาไว้ให้ลูกน้อยได้ และก่อนการซื้อ ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าร้านค้าที่คุณซื้อเปลมานั้นมีมาตรฐาน มีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและมีราคาสมเหตุสมผล เพียงแค่เน้นหลักการง่าย ๆ เหล่านี้ รับรองได้ว่าคุณจะได้เปลโยกที่คุ้มค่าที่สุดเอาไปให้ลูกน้อยหลับสบายอย่างแน่นอน