เมื่อพูดถึงภาพแก้วกาแฟขนาดพอดีมือในยามเช้าที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมกรุ่นจากกาแฟคั่วบด คงเป็นภาพแห่งความสุขของคอกาแฟหลาย ๆ คนไม่น้อย และคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่เราได้สัมผัสความหอม ความสดใหม่และความพิถีพิถันของเมล็ดกาแฟที่ผ่านขั้นตอนการบดด้วยตัวของเราเอง แต่การจะบดกาแฟได้นั้นก็ต้องมีผู้ช่วยอย่างเครื่องบดกาแฟซึ่งในปัจจุบันเครื่องบดนั้นถูกแบ่งออกไปหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น บดหยาบ บดละเอียด บดด้วยมือ หรือด้วยระบบไฟฟ้า และจากอีกหลากหลายผู้ผลิตไม่ว่าจะเป็น Hario, KONCO , Krups , Duchess ฯลฯ
ดังนั้นในครั้งนี้ผู้เขียนจึงรวบรวมข้อมูลและเคล็ดลับสำคัญที่จะช่วยให้เราเลือกเครื่องบดกาแฟที่ตรงตามการใช้งาน ร่วมกับ 10 อันดับเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนธรรมดารวมถึงแบบใช้ไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมและยังสามารถหาซื้อได้อย่างง่ายดายผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย จะคุ้มค่าและบดกาแฟได้ตรงใจมากน้อยแค่ไหนนั้น มาชมกันเลยค่ะ
ออกสตาร์ทกันด้วยหัวใจหลักอย่างตัวเครื่องบดกันก่อนเลย หลายคนอาจคิดว่ารสชาติมักจะขึ้นอยู่กับการเลือกเมล็ดกาแฟ แต่ทว่าเครื่องบดกาแฟกลับมีบทบาทที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะความละเอียดที่บดได้จะส่งผลต่อขั้นตอนของการทำกาแฟแบบต่าง ๆ เช่นบางแบบต้องการใช้เวลาหรืออาจใช้ความร้อนเพื่อละลายตัวของผงกาแฟต่างกันออกไปนั่นเอง
รูปแบบของตัวเครื่องเป็นสิ่งแรกที่ต่างกันอย่างชัดเจน มีทั้งแบบใช้มือหมุนรวมถึงใช้ระบบไฟฟ้าและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกตามสไตล์ที่เราชื่นชอบและตรงตามวิธีการใช้งานก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย
สำหรับการบดกาแฟด้วยการใช้มือหมุน(Manual)นั้น ถือว่าเป็นความคลาสสิคที่สุดเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความชื่นชอบในความพิถีพิถันหรือเชี่ยวชาญในเรื่องกาแฟ เพราะนอกจากการลงน้ำหนักมือให้ได้ผงกาแฟที่ต้องการในทุกขั้นตอนแล้ว ยังได้กลิ่นหอม ๆ จากเมล็ดกาแฟตลอดเวลาที่ทำด้วย
โดยเครื่องบดกาแฟมือหมุนมีทั้งแบบเก่าแก่ที่ใช้กล่องไม้และแบบสแตนเลส ซึ่งข้อดีก็คือ มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย รวมถึงการที่ไม่ใช้ไฟฟ้าจึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางหรือต้องการพกติดตัวไปในช่วงวันหยุดพักผ่อนเพราะสามารถพกพาไปได้ทุกที่
อย่างไรก็ตามด้วยขนาดที่เล็ก ทำให้สัดส่วนและปริมาณกาแฟบดที่ได้ต่อหนึ่งครั้งค่อนข้างน้อยและมีจำกัดเมื่อเทียบกับการใช้แบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบดที่กินเวลาค่อนข้างนานจึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสโลว์ไลฟ์ เรียบง่าย สามารถเพลิดเพลินไปกับเวลาในการบดและการพักผ่อนไปพร้อม ๆ กันมากกว่านั่นเอง
และสำหรับเครื่องบดกาแฟระบบไฟฟ้าที่สามารถบดได้ในเวลาอันสั้นก็ถือว่าตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความสะดวกอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังสามารถบดได้ครั้งละมาก ๆ ด้วย ดังนั้นใครที่คนในครอบครัวต่างก็ดื่มกาแฟเรียกว่าหมดกังวลเรื่องที่ต้องบดซ้ำหลายครั้งไปได้เลย
และในทางกลับกันระบบไฟฟ้าย่อมมีข้อเสียทั้งเรื่องการใช้งานที่ต้องอาศัยไฟฟ้า เสียงรบกวนระหว่างที่เครื่องใช้ความเร็วสูง ขนาดที่ใหญ่ทำให้ต้องจัดสรรพื้นที่ให้เพียงพอ และที่สำคัญการบดที่ผ่านความร้อนและแรงเสียดทานของเครื่องบางชนิดจะส่งผลต่อรสชาติของกาแฟแน่นอน อย่างไรก็ดีสิ่งเหล่านี้อาจไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่สำหรับผู้ใช้ที่เน้นความเร็วและไม่ได้เจาะจงในแง่ของรสชาติมากนัก
เมื่อเราแบ่งประเภทของเครื่องบดกาแฟกันไปแล้ว ลักษณะการออกแบบ ตลอดจนวัสดุที่ใช้ในเครื่องบดในแต่ละประเภทก็สำคัญไม่น้อย และเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ในการเลือกเครื่องบดกาแฟให้ตรงใจก็มาเริ่มต้นกันที่เทคนิคการเลือกในแบบของมือหมุนกันก่อนเลย
เครื่องบดที่ให้ความสะดวกและใช้งานง่ายนั้น ความแข็งแรงของตัวเครื่องย่อมเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิง การที่ต้องออกแรงบดมากขึ้นคงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นจึงควรเลือกรูปแบบที่จะช่วยให้เราใช้แรงน้อยที่สุด อย่างด้ามที่ยาวจับถนัดมือซึ่งช่วยให้การหมุนง่ายขึ้นหรือให้แรงโน้มถ่วงช่วยหมุนในแนวตั้งเป็นต้น ทั้งนี้หากไม่ได้เจาะจงรสสัมผัสของกาแฟเป็นพิเศษ วิธีการเช่นนี้ก็สามารถใช้เป็นทางเลือกได้
และในบางครั้งหลายคนอาจคิดว่าถ้าต้องการปริมาณไม่มากนักการเลือกเครื่องเล็กก็คงเพียงพอแล้ว แต่หากลองปรับขนาดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยหรือขนาดที่สามารถหมุนได้ถนัดมือก็จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ไม่จำเป็นจะต้องซื้อเครื่องใหญ่หรือด้ามจับที่ยาวจนเกินไปเพราะนอกจากต้องออกแรงเพิ่มแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นการสร้างความยุ่งยากใช้งานไม่น้อยทีเดียว
ข้อดีอีกหนึ่งข้อของระบบมือหมุนคือขนาดที่เล็กน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปใช้ในที่ที่ไม่มีไฟฟ้าได้อย่างสะดวกรวมไปถึงการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของคอกาแฟนอกสถานที่เลยก็ว่าได้
การได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อน ได้ชื่นชมทัศนียภาพที่สวยงามไปพร้อม ๆ กับกาแฟที่หอมอร่อยก็นับเป็นบรรยากาศแห่งความสุขที่ตราตรึงใจของหลาย ๆ คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นกาแฟที่เราบดเอง ความสุขก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ในบรรดาผู้ที่เลือกแบบมือหมุน อีกเหตุผลในการเลือกที่พบได้มากพอ ๆ กับขนาดกระทัดรัดก็คือแฟชั่นในการออกแบบที่หลากหลายตั้งแต่รูปแบบทรงกระบอกสแตนเลสที่ทันสมัยไปจนถึงกล่องไม้แบบโบราณแต่คลาสสิคที่ยังคงมีให้เห็นตามท้องตลาดและมีจำนวนมากพอ ๆ กับรูปแบบสมัยใหม่ด้วย
อย่างไรก็ดีหากใครที่ไม่ได้เลือกเพื่อพกพาในวันหยุดโดยเฉพาะ การมีไว้ใช้งานที่บ้านหรืออยู่กับที่จึงควรเลือกแบบที่มีฝาปิดเพื่อช่วยป้องกันแมลงและฝุ่นละอองต่าง ๆ ได้
แต่หากใครที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟ การเลือกใช้เครื่องบดแบบไม่มีฝาจึงเป็นการเพิ่มอรรถรสของบรรยากาศที่ยิ่งอบอวลได้ดีมากเลยทีเดียว และยังมีข้อดีในเรื่องของการใส่เมล็ดกาแฟได้ง่ายและรวดเร็วเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้งานเป็นประจำอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ยังง่ายต่อการบำรุงรักษาเพราะทำความสะอาดได้ทั่วถึงกว่าแบบปิด อย่างไรก็ตามยังมีข้อควรระวังในส่วนของการออกแรงบดที่มากเกินไปอาจทำให้เมล็ดกาแฟกระจายออกมานอกตัวเครื่องได้
ในการเลือกเครื่องบดกาแฟที่เป็นระบบไฟฟ้า มีจุดสังเกตในการเลือกอยู่ที่ระดับของการบดที่จะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นตั้งแต่ระดับหยาบไปจนจึงถึงละเอียดมาก และยังมีขนาดให้เลือกพิจารณาตามสถานที่ที่ที่ใช้ตลอดจนรูปแบบการใช้งานด้วยเช่นกัน
สำหรับเครื่องบดกาแฟขนาดใหญ่ประสิทธิภาพสูงมาพร้อมฟังก์ชั่นการบดระดับต่าง ๆ เป็นแบบที่เรามักพบในร้านกาแฟส่วนใหญ่ โดยเน้นที่ความเร็วในการบดเป็นหลักเพื่อคงกลิ่นและความสดของเมล็ดกาแฟบดไว้ให้มากที่สุด รวมไปถึงความละเอียดที่มีความแม่นยำสูงทำให้ได้ผงกาแฟสำหรับประเภทกาแฟที่หลากหลายด้วย
โดยเครื่องบดประเภทนี้จะมีใบพัดอยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือแบบเฟืองบด 2 ชั้น และเฟืองบดแบบกรวย ด้วยความที่มีประสิทธิภาพในการบดสูงมากประกอบกับความทนทานไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยทำให้ราคาเครื่องสูงตามไปด้วย ดังนั้นจึงเหมาะกับการใช้งานโดยผู้เชี่ยวชาญหรือใช้ในระดับ Commercial เป็นส่วนใหญ่
ระบบไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับครัวเรือนก็ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจ เพราะเป็นการนำแบบมือหมุนมาเพิ่มมอเตอร์เข้าไป แม้จะปรับระดับความละเอียดไม่ได้แต่สามารถอาศัยระยะเวลาช่วยได้ ทั้งนี้การทำงานของมอเตอร์อาจมีเสียงดังบ้าง แต่ไม่ถือเป็นปัญหาเท่าไหร่นักเพราะเครื่องทำงานในระยะเวลาที่สั้นมาก
ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบด้วยขนาดและลักษณะการบด เครื่องบดประเภทใช้มอเตอร์นี้ถือว่าคุ้มค่าทั้งในแง่ของราคาและขนาดพอเหมาะที่ไม่ต้องใช้พื้นที่มากอีกด้วย อย่างไรก็ดีการบำรุงรักษาเป็นเรื่องที่ควรคำนึงเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสที่ผงกาแฟขนาดเล็กจะติดอยู่ในมุมต่าง ๆ ของเครื่องที่มีไฟฟ้าสถิตย์ได้
การเลือกจากประเภทใบมีดก็มีส่วนเช่นกัน เพราะใบมีดแบบใบพัด (Blade) จะให้ผงที่ไม่สม่ำเสมอเหมาะกับการชงแบบ French Press แบบเฟืองบด 2 ชั้น (Flat Burr) ปรับความละเอียดได้ทำให้ได้เนื้อสัมผัสชัดเจน ส่วนเฟืองบดแบบกรวย (Conical Burr) จะได้ผงที่สม่ำเสมอมากแต่เซ็ตอัพยากกว่าแบบอื่นจึงเหมาะกับผู้ที่มีความชำนาญมากกว่า
อย่างไรก็ดี หากบดจนเกิดความละเอียดมากเกินไปจะทำให้ผงกาแฟติดกันและเกิดการ Channeling หรือกาแฟที่ชงถูกสกัดไม่ทั่วถึงได้ ดังนั้นการตั้งค่าความละเอียดในระดับที่เหมาะสมรวมถึงเวลาที่พอดีควบคู่กันไปก็จะช่วยให้ได้ผงกาแฟที่ตรงตามความต้องการของเรามากขึ้นด้วย
จุดสำคัญคือความละเอียดของผงกาแฟนั้นมีผลต่อรสชาติของกาแฟพอสมควร ดังนั้นการเลือกเครื่องบดกาแฟให้สอดคล้องกับรูปแบบและชนิดกาแฟที่ต้องการชงก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
ความละเอียดของผงกาแฟคือส่วนประกอบที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟรสเข้ม ๆ อย่างเอสเพรสโซ่ เพราะขั้นตอนการชงต้องอัดผงกาแฟให้แน่นเพื่อสกัดให้น้ำกาแฟไหลผ่านผงที่อยู่ในด้ามชงและต้องไม่ใช่ผงที่บดทิ้งไว้นาน ดังนั้นควรเลือกเครื่องบดแบบไฟฟ้าที่ใช้เวลาบดสั้นและปรับความละเอียดได้ เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติของกาแฟไว้นั่นเอง
Coffee Drip Brew หรือกาแฟดริปซึ่งปัจจุบันนิยมใช้ในร้านกาแฟอย่างแพร่หลาย เป็นการสกัดรสชาติของกาแฟโดยใช้วิธีให้น้ำไหลผ่านอุปกรณ์ที่ต้องใช้ขั้นตอนและเวลากว่าแบบอื่น ซึ่งการดริปกาแฟไม่มีสูตรตายตัวดังนั้นการเลือกเครื่องบดสำหรับกาแฟชนิดนี้จึงค่อนข้างกว้างเพราะขึ้นอยู่กับรสชาติผู้ชงต้องการเป็นหลัก แต่โดยส่วนใหญ่แล้วแนะนำให้ใช้เป็นความละเอียดระดับกลางค่อนไปทางหยาบมากกว่า
การชงแบบ French Press นั้นเป็นแบบที่ได้รับความนิยมเพราะสะดวกและง่ายมาก โดยนิยมใช้กาแฟบดแบบหยาบแล้วเติมน้ำร้อนลงไปจากนั้นกด Filter เพื่อแยกผงกาแฟไว้ด้านล่างของเครื่องชง ดังนั้นแล้วเพื่อรสชาติที่ดีของกาแฟดำหรือ Coffee Press จึงควรเลือกเครื่องบดที่ให้ผงที่หยาบอย่างแบบมือหมุนหรือแบบไฟฟ้าบางรุ่นและควรหลีกเลี่ยงเครื่องบดที่ปรับความละเอียดได้
ไม่ว่าจะเลือกแบบมือหมุนหรือไฟฟ้าวัสดุของใบมีดก็เป็นส่วนสำคัญเนื่องจากส่งผลต่อรสชาติของกาแฟไม่น้อย และโดยทั่วไปจะพบว่าผู้ผลิตส่วนใหญ่จะนิยมเลือกใช้ใบมีดที่ทำจากเหล็ก (Steel) เพราะมีความแข็งแรงสึกกร่อนได้ยากแต่สะสมความร้อนซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นเหล็กได้
แต่ในผู้ผลิตบางรายที่ผลิตแบบมือหมุนก็อาจเลือกใช้เป็นเซรามิคแทนเพราะทนต่อการใช้งานหนักมากกว่า และสำหรับการเลือกซื้อด้วยช่องทางออนไลน์ วัสดุเหล่านี้ควรเป็นอีกหนึ่งข้อที่ต้องมีระบุไว้ในข้อมูลผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจนก่อนที่เราจะยืนยันการสั่งซื้อด้วยเช่นกัน
หลังจากทำการบดกาแฟเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกอุปกรณ์ชงกาแฟหอมกรุ่น เสิร์ฟร้อน ๆ สามารถเลือกวิธีชงได้ทั้งการดริปผ่านเหยือก หรือใช้หม้อต้มก็รวดเร็วทันใจ ซึ่งการเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม นอกจากจะสะดวกแล้ว ยังช่วยเสริมรสชาติให้ถูกใจคุณได้ด้วย ดังนั้น หากคุณยังไม่รู้ว่าต้องเลือกแบบไหน บทความด้านล่างนี้มีวิธีการเลือกดี ๆ มาแนะนำคุณค่ะ ดูรายละเอียดตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
ผ่านไปสำหรับวิธีการเลือกเครื่องบดทั้งสองแบบ และแล้วก็ได้เวลาของอันดับเครื่องบดกาแฟยอดนิยมที่ถูกใจนักช้อปออนไลน์แถมคุณภาพคุ้มค่า โดยเราจะมาเริ่มกันที่แบบมือหมุนด้วยตัวเอง จะมีอะไรบ้างนั้นมาชมกันเลย
เครื่องบดกาแฟรูปแบบโบราณสุดคลาสสิคถือเป็นอีกหนึ่งอย่างที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ตัวโถบดและด้ามจับทำจากสแตนเลส มีลิ้นชักกล่องไม้คอยรองรับผงบดที่บริเวณฐานเครื่อง และด้วยลักษณะที่ป็นเอกลักษณ์ทำให้นอกจากการบดกาแฟแล้วยังถูกเลือกใช้สำหรับตั้งโชว์เพื่อความสวยงามในมุมกาแฟด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีการบดในแต่ละครั้งจะต้องออกแรงค่อนข้างเยอะ ซึ่งด้วยขนาดที่เล็กบวกกับเป็นแบบไร้ฝาทำให้ผงบดกระจายออกจากโถได้ง่าย รวมถึงมีข้อควรระวังที่ไม่ควรใช้น้ำทำความสะอาดเด็ดขาดเพราะจะทำให้โถบดเกิดสนิมได้
KONCO รุ่น Mills Dripper ที่โดดเด่นด้วยใบมีดเป็นแบบเฟืองแบบกรวยขนาดเล็ก ผลิตจากเซรามิคแข็งช่วยให้บดได้ง่ายเพิ่มความสม่ำเสมอของผงกาแฟและเพิ่มความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังสามารถหมุนเพื่อปรับความละเอียดและมีช่องกระจกที่สามารถสังเกตความละเอียดของผงกาแฟได้ด้วย ตัวเครื่องสแตนเลสทรงกระบอกความจุ 40 กรัมเทียบเท่ากาแฟ 3 ถ้วยที่สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งก็นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องบดกาแฟมือหมุนน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา
อีกหนึ่งดีไซน์ที่สวยงามทันสมัยซึ่งโถจุผลิตจากแก้วที่มีความหนาพิเศษสามารถความจุผงกาแฟได้ 75 กรัม ด้ามจับทำจากสแตนเลสชนิดแข็งช่วยลดการออกแรงหมุนและสามารถหมุนแกนเพื่อปรับระดับความหยาบละเอียดได้ นอกจากนี้โถบดพร้อมฝาและยางกันขอบทั้งหมดเป็นซิลิโคน ช่วยให้ผงกาแฟไหลผ่านเครื่องบดได้ดีไม่เกาะติดขอบโถ อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะใบมีดเซรามิคที่เป็นเฟืองบดธรรมดาทำให้ผงกาแฟที่ได้ค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ รวมไปถึงอาจเกิดปัญหาเรื่องความชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ของโถบดซิลิโคนที่ใช้ในระยะยาวด้วย
มาต่อกันที่ Hario รุ่น Coffee mill Column CM-502C เครื่องบดเนื้อไม้ทรงกระบอกขนาดพอดีมือกันบ้างโดยรุ่นนี้มาพร้อมเฟืองบดแบบกรวยทำจากเซรามิคให้ความละเอียดที่สม่ำเสมอเทียบเท่ากับระบบไฟฟ้าบางรุ่น และสามารถนำไปใช้กับเครื่องชงเอสเพรสโซ่ได้ รวมไปถึงบริเวณฐานมีแผ่นกันลื่นช่วยเพิ่มความมั่นคงแข็งแรงไม่ให้โคลงเคลงขณะใช้งาน ทั้งนี้การที่ตัวเครื่องบดทำจากไม้ทำให้ควรระวังในเรื่องของการเก็บและบำรุงรักษาให้พ้นจากความชื้นเป็นสำคัญ เพราะจะส่งผลเรื่องของกลิ่นที่จะติดไปกับผงกาแฟได้
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LAZADA
ราคา 1,650 บาท
เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มเด็ดห้ามพลาดจริง ๆ สำหรับ Kalita รุ่น Coffee mill KH-3 ที่ไม่ใช่แค่ดีไซน์ที่สวยงามเท่านั้นแต่ยังมีด้ามจับโถบดรวมไปถึงแกนบดที่ผลิตจากสแตนเลสแข็งพิเศษมีความแข็งแรงทนทานช่วยให้บดได้ละเอียดเร็วขึ้น และใช้การหมุนโถบดและแกนบดแยกออกจากกันใบมีดเป็นแบบเฟืองบด 2 ชั้นทำจากเหล็กแข็งพิเศษ ที่สำคัญคือสามารถปรับความละเอียดด้วยการหมุนเฟืองขนาดเล็กที่แกนด้านบน โดยหมุนตามเข็มนาฬิกาเพื่อเพิ่มความละเอียดมากขึ้นนั่นเอง
แล้วก็ถึงคิวของเครื่องบดกาแฟแบบไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในเรื่องของดีไซน์และความรวดเร็วที่เป็นมาตรฐาน ซึ่งจะคุ้มค่าแต่ตอบโจทย์รสนิยมของเราแค่ไหนนั้น มาเริ่มกันเลย
เมื่อพูดถึงเครื่องบดแบบไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ EsoGoal คงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เพราะแม้จะมีขนาดเล็กแต่จัดเต็มด้วยมอเตอร์กำลังสูงถึง 400 วัตต์ซึ่งสามารถบดเมล็ดกาแฟกว่า 80 กรัมได้ภายในเวลา 10-30 วินาที รวมถึงใช้งานง่ายโดยการกดเปิด-ปิดในปุ่มเดียวกันได้เลย แต่ทว่าการที่ใบมีดเป็นแบบใบพัดเหล็กธรรมดานั้นทำให้ได้ผงกาแฟไม่สม่ำเสมอกัน และยังมีข้อจำกัดที่ไม่ควรใช้งานเครื่องต่อเนื่องเกินกว่า 1 นาที เพราะจะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักจนเกิดความร้อนและส่งผลต่อกลิ่นและรสชาติของกาแฟได้
เครื่องบดกาแฟไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการบดเมล็ดกาแฟในปริมาณมาก โดยด้านบนตัวเครื่องมีโถพลาสติกสำหรับบรรจุเมล็ดกาแฟ มาพร้อมมอเตอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ใบพัดเป็นเฟืองแบบกรวย (Conical Burr) ช่วยให้ผงกาแฟที่ได้มีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้นนอกจากนี้ยังสามารถปรับระดับความหยาบ ปานกลางไปจนถึงละเอียดมากได้ถึง 8 ระดับ เรียกได้ว่าจะเลือกไว้ใช้งานในบ้านหรือเลือกซื้อสำหรับใช้ในร้านก็นับว่าคุ้มค่ามากเลยทีเดียวค่ะ
อีกหนึ่งความทนทานใช้งานง่ายจาก ETZEL ที่ตัวเครื่องทำจากสแตนเลสเนื้อหนา สวยงาม เริ่มการบดได้ด้วยการกดฝาด้านบน ซึ่งเป็นฝาโปร่งใสทำให้สามารถมองเห็นการบดได้ ฐานใบมีดเป็นแบบใบพัดทำจากสแตนเลสชนิดแข็งมีอายุการใช้งานยาวนาน ไม่ดูดซับความร้อน และสามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ รวมทั้งยังมีขีด MAX กำหนดความความจุสูงสุด 75 กรัมอยู่ภายในโถ มีระบบหยุดการทำงานทันทีในกรณีที่ปิดฝาไม่ตรงกับล็อค แถมมาพร้อมซีลยางที่บริเวณฝาช่วยป้องกันการกระจายของผงกาแฟในขณะที่เครื่องทำงานให้อีกด้วย
พลาดไม่ได้สำหรับเครื่องบดรุ่นนี้ ตัวเครื่องผลิดจากพลาสติกเนื้อหนาและสแตนเลสแข็ง ใช้มอเตอร์ที่มีความเร็วรอบในการบดถึง 12,000 รอบ/นาที ฝาด้านบนโปรงใสสามารถมองเห็นลักษณะการบดได้ง่าย ใบมีดเป็นแบบใบพัดผลิตจากสแตนเลสแข็งพิเศษทนทานต่อการสึกกร่อนและช่วยให้บดได้ละเอียดขึ้นไปในตัว นอกจากนี้ยังสามารถใช้บดธัญพืชเปลือกแข็งและเครื่องเทศได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ความละเอียดนั้นขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำงานของเครื่องเพราะเครื่องรุ่นนี้ยังไม่สามารถปรับระดับความละเอียดได้นั่นเอง
สุดยอดแห่งนวัตกรรมการบดกาแฟจริง ๆ สำหรับ Krups รุ่น GVX242 ที่นอกจากจะมาพร้อมโถบดความกว่า 210 กรัมและสวิตซ์เปิด-ปิดการใช้งานอย่างง่ายแล้ว ยังมีฟังก์ชันการปรับระดับความละเอียดมาให้สูงสุดถึง 17 ระดับ แถมยังเพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบตัดการทำงานหากฝาครอบโถถูกเปิดหรือปิดไม่สนิทอีกด้วย ใบมีดเป็นระบบเฟืองบด 2 ชั้นขนาด 40 มม. ถอดล้างทำความสะอาดได้ง่าย ไม่สะสมความร้อน ช่วยคงความสด และรสชาติของกาแฟได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ด้วยประสิทธิภาพที่คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างยิ่ง จึงทำให้ได้รับความนิยมติดอันดับ 1 อย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
จากที่ได้ศึกษาข้อมูลกันมาแล้ว ทำให้เราพบว่าขั้นตอนและอุปกรณทุกชิ้นมีส่วนอย่างยิ่งในการเปลี่ยนรสชาติของกาแฟ ดังนั้นแล้วการบำรุงรักษาจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และหลายคนอาจพบปัญหาเรื่องการทำความสะอาดในบางจุดที่เข้าถึงยาก แต่วิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้ค่ะ
แน่นอนว่าในบางรุ่นมีข้อจำกัดในเรื่องของการห้ามล้างเพราะวัสดุที่ใช้อาจเกิดสนิมได้ ทางออกที่น่าสนใจคือการใช้แปรงบางหรือพู่กันขนาดเล็กค่อย ๆ ปัดผงกาแฟที่ค้างอยู่ในเครื่องออก หรือในกรณีที่เกิดคราบก็สามารถใช้ผ้านุ่ม ๆเช็ดออกได้เช่นกัน
แต่ยังมีข้อควรระวังที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ การบดอาหารหรือส่วนผสมชนิดอื่นนอกเหนือจากกาแฟ ซึ่งไม่ว่าเครื่องบดจะสะอาดแค่ไหนแต่กลิ่นของสิ่งเหล่านั้นจะยังคงอยู่ และอาจติดไปกับผงกาแฟได้ ดังนั้นแล้วหากเป็นไปได้ ควรแบ่งการใช้งานหรือแยกเครื่องบดของกาแฟไว้เฉพาะอย่างเท่านั้น
เครื่องบดกาแฟนั้นถือเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟได้ใช้เวลาไปกับการรังสรรค์ในสิ่งที่รัก ได้สัมผัสกลิ่นหอม ๆ ของเมล็ดกาแฟบดซึ่งอวบอวลไปด้วยรสชาติแห่งความพิถีพิถันชวนลิ้มลอง เรียกได้ว่าถ้าคุณเป็นหนึ่งในชุมชนคอกาแฟต้องห้ามพลาดที่จะมีติดบ้านไว้อย่างแน่นอน
สำหรับวันนี้ผู้เขียนต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าวิธีการเลือกเครื่องบดกาแฟให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนในครั้งนี้ จะช่วยให้ทุกคนได้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความสุขจากกาแฟที่เป็นผู้ช่วยให้เราเริ่มต้นวันและกิจกรรมได้อย่างมีความสุขสดใสเพิ่มขึ้นในทุก ๆ วันนะคะ