ถั่วพิสตาชิโอเป็นถั่วที่ได้รับความนิยมสูงมากชนิดหนึ่งเนื่องจากเป็นถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ถั่วชนิดนี้ส่วนใหญ่มาจากแหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ เช่น ในสหรัฐอเมริกา ประเทศอิหร่าน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ ทั้งแบบสด แบบคั่วหรืออบ แบบปรุงแต่งรส ไม่ปรุงแต่งรส มากมายหลายกรรมวิธีในการแปรรูป ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดก็มีเยอะมากจนเวลาคุณผู้อ่านเลือกซื้อ ก็ไม่สามารถทราบได้ว่าแบบไหนจะเหมาะสมและถูกปากกับตัวเองมากที่สุดใช่ไหมคะ
คราวนี้ทางทีมงานจะมาแนะนำคุณผู้อ่านเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อถั่วพิสตาชิโอ ที่นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังได้คุณค่าทางสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย รวมไปถึงบำรุงผิวพรรณ รวมไปถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมที่สามารถซื้อออนไลน์ได้มาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะคะ
ถั่วพิสตาชิโอเป็นถั่วที่เก็บเกี่ยวได้จากต้นพิสตาชิโอที่เป็นไม้ผลัดใบวงศ์ Anacardiaceae สกุล Pistacia เป็นถั่วที่มีเนื้อข้างในสีเขียวสวย นิยมนำมาคั่วหรืออบแล้วโรยเกลือ มีรสชาติอร่อยกลมกล่อมหอมมัน ที่มีเอกลักษณ์ต่างกับถั่วที่อยู่ในวงศ์เดียวกันอย่างเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมื่อเปรียบเทียบกับถั่วชนิดอื่น ๆ แล้ว ถั่วชนิดนี้จะมีเนื้อสัมผัสที่เปราะและกรอบกว่า ทำให้ทานง่าย เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ถั่วพิสตาชิโอเป็นที่นิยมค่ะ
ถั่วพิสตาชิโอมีคุณค่าทางสารอาหารที่ให้ผลดีต่อร่างกายอยู่หลายชนิด ตั้งแต่กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ที่สามารถยับยั้งการเพิ่มของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีหรือไขมันเลว (LDL) และป้องกันการเกิดภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและความดันโลหิตสูงได้ มีโพแทสเซียมที่ช่วยขับปริมาณโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกาย และมีแมกนีเซียมอยู่ในปริมาณสูง สามารถช่วยเรื่องกระดูก ป้องกันความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับหัวใจได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังอุดมด้วยโปรตีนที่เป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงซ่อมแซมอวัยวะภายใน ผิวหนัง ไปจนถึงเส้นผม ดังนั้นถั่วพิสตาชิโอรวมไปถึงถั่วชนิดอื่น ๆ ถือว่าเป็นของทานเล่นที่มีประโยชน์สูง เหมาะสำหรับทั้งเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโตไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่ต้องการรักษาสุขภาพค่ะ
ถั่วพิสตาชิโออุดมไปด้วยวิตามิน B และวิตามิน E ที่สามารยับยั้งการเพิ่มของสารอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย และโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน(NCDs/Lifestyle Disease) ทำให้ผู้รักและใส่ใจในด้านความงามนิยมทานเป็นของว่าง
นอกจากนี้แล้ว ยังอุดมด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ทุกท่านที่ใส่ใจในการดูแลผิวพรรณ และการลดหรือทำให้น้ำหนักคงที่ ถั่วพิสตาชิโอเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมตัวหนึ่งสำหรับการเป็นขนมขบเคี้ยวระหว่างมื้อหรือหลังออกกำลังกายอีกด้วยนะคะ
ตอนนี้คุณผู้อ่านคงได้ทราบเกี่ยวกับประโยชน์จากการทานถั่วพิสตาชิโอกันไปแล้ว ทางทีมงานขอแนะนำวิธีการเลือกถั่วพิสตาชิโอตามหัวข้อด้านล่างนี้เลยค่ะ
ระดับในการแปรรูปและการปรุงรสของผลิตภัณฑ์จากถั่วพิสตาชิโอนั้นจะมีตั้งแต่แบบดิบ คั่วหรืออบ แบบปรุงรส เช่น รสเกลือ รมควัน หรือรสชาติอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีแบบมีเปลือกและแบบไร้เปลือกให้ได้เลือกกันอีกด้วย ดังนั้นควรจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของไลฟ์สไตล์และสุขภาพของคุณผู้อ่านได้มากที่สุดนะคะ
ถั่วพิสตาชิโอแบบดิบเป็นถั่วที่ถูกเก็บเกี่ยวและไม่ผ่านกระบวนการการแปรรูปหรือปรุงรสใด ๆ สามารถทานได้แบบดิบ ๆ หรือจะคั่วอบ หรือนำไปปรุงเป็นอาหารตามชอบได้เลยค่ะ แต่ว่าสำหรับผู้ที่เป็นคนธาตุอ่อน ถ้าจะลองทานแบบดิบ ให้ลองทานดูก่อนประมาณ 1-2 เมล็ดเพื่อดูว่าจะมีอาการปวดท้องหรืออาการคลื่นไส้อื่น ๆ หรือไม่ก่อนจะดีที่สุดค่ะ
ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสตาชิโอแบบคั่วหรืออบแบบไม่ปรุงแต่งรส คือ การนำถั่วดิบมาคั่วหรืออบทั้งอย่างนั้นเลย ผู้ใช้สามารถแกะออกจากถุงแล้วทาน หรือจะปรุงรสตามชอบด้วยตัวเองได้ทันใจ และสามารถนำไปทำเป็นขนมและอาหารได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีเครื่องปรุงรสที่จะทำให้รสชาติอาหารหรือขนมเปลี่ยนค่ะ สำหรับผู้ที่จะทานเพื่อบำรุงผิวพรรณ สุขภาพและการลดน้ำหนัก ขอแนะนำให้เลือกประเภทที่คั่วโดยไม่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือน้ำตาลนะคะ
เป็นถั่วพิสตาชิโอแบบคั่วหรืออบที่ผ่านการปรุงรสด้วยเกลือ หรือเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ค่ะ ซึ่งสะดวกและสามารถนำมาทานเป็นของทานเล่นได้ทุกเวลา ทุกโอกาส มีรสชาติให้เลือกทานมากมาย เช่น รสเกลือ รสรมควัน รสวาซาบิ รสพริกไทย เป็นต้น
ถั่วพิสตาชิโอในประเทศไทยมักเป็นถั่วนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาค่ะ ถั่วจากประเทศอเมริกาจะมีจุดเด่นที่เมล็ดที่อวบ และรสชาติที่ละมุนละไม นอกจากจะทานเล่นได้แล้วยังเหมาะที่จะนำมาทำเป็นขนมอบและอาหารอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีถั่วพิสตาชิโอที่นำเข้าจากประเทศอิหร่าน ซึ่งอาจจะหาได้ยากกว่าในประเทศไทย จะมีจุดเด่นที่ความหวานและหอม เหมาะกับการนำมาทานเป็นของว่างทานเล่นค่ะ
ถั่วพิสตาชิโอที่ผ่านการคั่วหรืออบนั้นรสชาติและรสสัมผัสจะต่างกันไปตามระดับของการคั่วหรืออบรวมไปจนถึงแหล่งเก็บเกี่ยว ก็เป็นตัวแปรของรสชาติด้วย ก่อนจะซื้อจึงควรตรวจสอบสถานที่เก็บเกี่ยวด้วยนะคะ
เวลาทานถั่วพิสตาชิโอ เราต้องแกะเปลือกแข็งสีขาวด้านนอกออกก่อนถึงจะทานได้ แต่ว่าในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์แบบแกะเปลือกออกให้แล้ววางจำหน่ายเพิ่มขึ้น สำหรับคนที่ใช้ทำขนมหรือปรุงอาหาร การใช้แบบแกะเปลือกสำเร็จเป็นตัวเลือกที่สะดวกและประหยัดเวลาได้ที่ดีมาก ๆ ค่ะ
นอกจากนี้เวลาทานเป็นของว่างสามารถหยิบทานได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่ามือจะเจ็บ นับว่าสะดวกมาก ๆ ก็จริง แต่ก็เหมาะสำหรับผู้สามารถที่กำหนดปริมาณการทานของตัวได้อย่างเคร่งครัด เนื่องจากการทานมากจนเกินไปก็มีผลเสียได้เช่นกัน ซึ่งทางทีมงานจะเขียนไว้ตรงท้ายบทความค่ะ
หลังจากที่ได้ทราบประโยชน์และวิธีการเลือกซื้อของถั่วพิสตาชิโอกันไปแล้ว ถัดไปจะเป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์ที่คุณผู้อ่านสามารถซื้อออนไลน์ได้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีสินค้าตัวไหนน่าสนใจบ้าง
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือใช้ถั่วพิสตาชิโอนำเข้าจากประเทศตุรกี ที่เป็นประเทศที่ส่งออกถั่วพิสตาชิโออันดับ 3 ของโลก มีข้อดีคือ เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค ได้รับรีวิวว่ามีรสชาติหอม มัน อร่อยค่ะ ถั่วที่มาจากประเทศตุรกีจะมีลักษณะที่ต่างจากถั่วจากสหรัฐอเมริกาและประเทศอิหร่านตรงที่เปลือกจะมีความบางกว่า เมื่ออบแล้วเปลือกจะไม่เปิดอ้ากว้างมาก อาจทำให้อาจจะแกะได้ยากในบางเมล็ดค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจอยากลองพิสตาชิโอจากแหล่งเพาะปลูกอื่นที่ต่างไปจากที่ขายทั่วไปในท้องตลาดค่ะ
ถั่วพิสตาชิโออบเกลือ นำเข้าจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เป็นแหล่งเก็บเกี่ยวของถั่วพิสตาชิโอที่รสชาติอร่อยแห่งหนึ่งเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการเพาะปลูก ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้รับรีวิวว่ามีรสชาติอร่อยและเนื้อเต็มเมล็ด และมีราคาสมเหตุสมผล เหมาะสำหรับผู้ซื้อที่อยากลองชิมถั่วพิสตาชิโอในปริมาณที่ไม่มากในราคาที่ไม่แพง แพคเกจเป็นถุงพลาสติกซีล เมื่อแกะแล้วควรย้ายใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดเพื่อเก็บรักษาได้นานขึ้นค่ะ
อันดับที่ 8 นี้ทางทีมงานขอแนะนำถั่วพิสตาชิโอ รสฮอตแอนด์สไปซี่ พิสตาชิโอส่วนใหญ่มีรสชาติและความหอมที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ปรุงแต่งรสชาติแบบนี้มีจำนวนไม่ค่อยมากในท้องตลาดค่ะ ทางเราจึงขอนำเสนอให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกัน เหมาะสำหรับผู้อยากลองถั่วพิสตาชิโอในรสชาติแปลกใหม่ค่ะ ถั่วพิสตาชิโอตัวนี้รสชาติเค็มกลมกล่อม มีความเผ็ดปานกลาง ข้อเสียของผลิตภัณฑ์ตัวนี้คือจะมีประมาณโซเดียมที่ค่อนข้างสูง ควรระวังไม่ให้ทานในปริมาณที่มากเกินไปนะคะ
ถั่วพิสตาชิโอแบบดิบเป็นผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างหาได้ยากในท้องตลาดบ้านเรา ถั่วแบบดิบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการคั่ว อบ ปรุงถั่วด้วยตนเองแต่แรก หรือคนที่กังวลเรื่องปริมาณของเกลือ น้ำมัน และสารปรุงแต่งในผลิตภัณฑ์ปรุงแต่งสำเร็จรูป มีข้อดีคือ สามารถกำหนดระดับของการคั่วหรืออบได้ และยังสามารถกำหนดปริมาณและดัดแปลงรสชาติของเครื่องปรุงรสได้อีกด้วย ผู้ที่สนใจในการทำอาหาร ขนม ของทานเล่นแบบสุขภาพดี ต้องลองใช้พิสตาชิโอแบบดิบดูค่ะ
ผลิตภัณฑ์นี้เป็นถั่วพิสตาชิโออบ แบบแกะเปลือก และไม่ปรุงรสชาติใด ๆ ตอบโจทย์สายรักสุขภาพ และผู้ที่ต้องการความสะดวกในการทานได้อย่างดีมากค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการรีวิวว่าใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ดี รสชาติอร่อย นอกจากนี้แล้วยังเป็นถั่วจากประเทศอิหร่านที่เป็นประเทศส่งออกถั่วพิสตาชิโออันดับหนึ่งของโลก สำหรับผู้ที่อยากลองว่ารสชาติของถั่วจากสหรัฐอเมริกากับอิหร่านต่างกันอย่างไร สามารถลองได้จากผลิตภัณฑ์นี้เลยค่ะ
ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสตาชิโอแบบอบเกลือ ได้รับรีวิวจากผู้ซื้อว่าชอบผลิตภัณฑ์นี้ เพราะมีรสชาติที่หอมมันและอร่อย ปริมาณเยอะ และมีเมล็ดค่อนข้างใหญ่ คุณภาพคุ้มค่ากับราคาค่ะ แม้จะมีรีวิวส่วนใหญ่ที่บอกว่าอร่อย แต่ก็มีบางรีวิวที่บอกว่าเค็มค่ะ ดังนั้นสำหรับคนที่ไม่ชอบเค็มเลย ขอแนะนำให้เลือกแบบไม่ใส่เกลือจะดีที่สุดค่ะ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์เป็นถุงพลาสติกซีล เมื่อเปิดแล้วจะมัดปากถุงปิดให้สนิทได้ยาก ดังนั้น เมื่อเปิดถุงแล้วควรจะย้ายถั่วลงใส่ภาชนะที่มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเข้าไปได้จะดีที่สุดค่ะ
สำหรับคนที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นคงรู้จักของฝากประเภทถั่วปรุงรสต่าง ๆ กันเป็นอย่างดี ทางทีมงานจึงขอนำเสนอถั่วพิสตาชิโอของ Sennarido ที่เป็นถั่วแกะเปลือกสำเร็จ เคลือบด้วยแป้งแล้วนำไปอบ มีรสให้เลือกคือรสดั้งเดิมและรสวาซาบิ ภายในแพ็กเกจมีแบ่งเป็นซองเล็ก ๆ ทำให้สามารถจำกัดปริมาณการทานได้ง่าย และพกพาไปได้สะดวกทุกที่ หรือจะนำไปแจกเพื่อน ๆ ก็ง่ายค่ะ ได้รับรีวิวจากผู้ที่เคยทานว่าเป็นขนมทานเล่นที่อร่อย เคี้ยวมันปาก รสวาซาบินั้นอาจจะมีขึ้นจมูกบ้าง ซึ่งจะเลือกลองทานรสไหนก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
ตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีแบรนด์แต่ทางทีมงานเห็นว่ามีรีวิวที่ดีมาก จึงนำมาแนะนำให้คุณผู้อ่านทุกคนได้รู้จักกันค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้เป็นถั่วพิสตาชิโอนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ผ่านการอบ แกะเปลือก ปรุงรสแบบเค็มน้อย ไม่จำเป็นต้องแกะเปลือกเองค่ะ ได้รับการรีวิวส่วนใหญ่ว่าเม็ดใหญ่ กรอบ ไม่เหม็นหืน ปริมาณเยอะคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะไม่มีน้ำหนักเปลือกรวมลงไปด้วย หลังจากเปิดถุงแล้วควรแบ่งใส่ภาชณะที่ปิดมิดชิดเพื่อรักษาสภาพของถั่วให้กรอบอร่อยนานขึ้นค่ะ
อันดับที่ 5 นี้ทางทีมงานขอนำเสนอถั่วพิสตาชิโออบเกลือจากแบรนด์ทอง การ์เด้นตัวนี้ค่ะ ผลิตจากโรงงานที่มีมาตรฐาน มั่นใจว่าสะอาดและปลอดภัยแน่นอนค่ะ แพคเกจเป็นซิปล็อกสามารถเก็บรักษาได้ง่าย รสชาติอร่อย มัน และเค็มกำลังดี ผลิตภัณฑ์นี้แน่นอนว่าเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการของทานเล่น รวมไปถึงผู้ที่ต้องการซื้อเป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ลูกหลาน ญาติผู้ใหญ่ เพราะนับว่าเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จักทั่วไปค่ะ
มาถึงอันดับหนึ่งของผลิตภัณฑ์ถั่วพิสตาชิโอ ตัวนี้ผลิตจากถั่วพิสตาชิโอนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา นำมาผ่านกรรมวิธีที่ถูกสุขลักษณะอนามัย ไม่มีการใส่น้ำมันและสารปรุงแต่งรสใด ๆ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ บรรจุภัณฑ์เป็นถุงซิปล็อก สามารถนำมาหยิบทานและเก็บได้อย่างง่ายดายและสะดวก ได้รับการรีวิวที่ดีส่วนใหญ่จากลูกค้าว่าอร่อย หวาน มัน แม้ไม่ได้รับการปรุงรสใด ๆ และคุ้มค่าทั้งในด้านปริมาณและราคาด้วยอีกค่ะ ผู้รักขนมทานเล่นและรักสุขภาพ ไม่ลองไม่ได้แล้วค่ะ
ถั่วพิสตาชิโอนอกจากจะเป็นของทานเล่นทั่วไป หรือเป็นกับแกล้มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์แล้ว ยังมีสีเชียวสวยงามที่สามารถนำไปใช้ในอาหารและขนมได้อีกด้วย เช่นการนำไปทำเป็นครีมสำหรับเค้ก คุกกี้หรือมาการอง หรือสับหยาบ ๆ แล้วนำไปใส่ไอศกรีมเข้ากันได้อย่างดีเยี่ยม
สำหรับอาหารแล้ว สามารถใช้ถั่วพิสตาชิโอบดหยาบ ๆ หรือละเอียดใส่ลงไปในพาสต้า ซุป หรือสลัด นับเป็นถั่วอีกชนิดหนึ่งที่เราสามารถนำมาลิ้มลองได้ในหลายรูปแบบ
กลิ่นหอมและรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เป็นจุดเด่นที่น่าหลงใหลของถั่วพิสตาชิโอ การรักษาถั่วพิสตาชิโอหลังเปิดผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง จะทำให้รักษารสชาติ กลิ่น และรสสัมผัสเอาไว้ได้นานขึ้น ถั่วพิสตาชิโอเป็นถั่วที่เมื่ออยู่ในที่อุณหภูมิสูงแล้วจะเสื่อมสภาพได้ง่าย ดังนั้น ด้วยอากาศร้อน ๆ แบบประเทศไทยนี้ เราขอแนะนำให้เก็บในที่แห้งและเย็น หรือเก็บในตู้เย็นจะยิ่งดีค่ะ
ถั่วทุกชนิดรวมไปถึงพิสตาชิโอนั้นมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เกิดการเสื่อมสภาพได้ค่อนข้างเร็ว หลังจากเปิดถุงแล้ว ให้ปิดถุงให้สนิทหรือย้ายใส่ภาชนะที่อากาศไม่สามารถเข้าไปได้แล้วนำแช่ตู้เย็น รวมถึงการวางแผนในการบริโภคให้หมดอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้มีการสูญเสียทรัพยากรโดยสูญเปล่าค่ะ
ถึงแม้ว่าถั่วพิสตาชิโอจะมีคุณค่าทางโภชณาการสูง แต่การทานในปริมาณที่มากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดีเนื่องจากเป็นถั่วที่อุดมด้วยไขมัน แม้จะเป็นไขมันที่ดี แต่ก็มีปริมาณแคลอรี่ที่สูงไปด้วย ถ้าจะทานทุก ๆ วัน ขอแนะนำให้ทานประมาณไม่เกิน 20 เมล็ดต่อวันจะเป็นการดีที่สุดค่ะ นอกจากนี้ผู้ที่แพ้ถั่วก็ไม่ควรรับประทานนะคะ
ถั่วพิสตาชิโอนั้นมีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมน่ารับประทาน เมื่อทานแล้วมักจะเพลินจนหยุดไม่ได้ แม้ว่าถั่วพิสตาชิโอจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่หลายชนิด แต่ก็มีแคลอรี่ที่ค่อนข้างสูง สำหรับคนที่กังวลเรื่องแคลอรี่และปริมาณเกลือที่ควรได้รับในแต่ละวัน ควรจะมีการแบ่งใส่ภาชนะเล็ก ๆ แล้วค่อยทาน จะช่วยยับยั้งการทานเพลินจนหยุดไม่ได้แน่นอนค่ะ
หวังว่าคุณผู้อ่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับถั่วพิสตาชิโอ และสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ถั่วพิสตาชิโอกันได้อย่างถูกใจนะคะ