ชีวิตประจำวันของเราต้องพบปะผู้คนมากมายซึ่งแน่นอนว่าบุคลิกภาพและการแต่งหน้านั้นก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยเพิ่มเสน่ห์และแสดงถึงตัวตนของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามการแต่งหน้าที่ดีนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความสวยงามบนใบหน้า แต่ยังรวมไปถึงสุขภาพผิวหน้าที่ดีโดยเฉพาะบริเวณแก้มที่เป็นจุดเด่นของใบหน้าอีกด้วย "แปรงปัดแก้ม" จึงเป็นหนึ่งในอุปกรณ์แต่งหน้าที่สาว ๆ หลายคนคุ้นเคย และต้องมีไว้ในครอบครองกันอยู่แล้ว
เมื่อพูดถึงการปัดแก้มหลายๆ คนอาจพบว่าแปรงที่ซื้อมา สีติดขึ้นมาไม่สม่ำเสมอบ้าง แปรงบาดหน้าบ้าง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความกังวลให้กับเราไม่น้อย ดังนั้นการเลือกแปรงให้ตรงกับการใช้งานและมีคุณภาพดีปลอดภัยต่อผิวจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีแปรงปัดแก้มคุณภาพหลากหลายแบรนด์ให้เราเลือกซื้อได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง MAC, NARS, ZOEVA, Real Techniques ฯลฯ โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะพาผู้อ่านทุกท่านไปค้นพบเคล็ดลับการเลือกซื้อแปรงปัดแก้มดี ๆ และนำเสนอ 10 อับดับ แปรงปัดแก้มยอดนิยม ที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงว่ามีคุณภาพดี แถมยังยกให้เป็นแปรงที่คู่ควรกับกระเป๋าเครื่องสำอางกันเลยทีเดียว
วิธีการปัดแก้มนั้นมีหลากหลายสไตล์ตามเทคนิคของแต่ละคน แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจัยที่จะทำให้ผลลัพธ์ในการปัดแก้มออกมาดูดี เป็นธรรมชาตินั้นมาจากแปรงปัดแก้มที่ใช้ รูปร่างของแปรงตลอดจนวัสดุขนแปรงด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นบรรดามืออาชีพ บิวตี้บล็อกเกอร์หรือมือใหม่ก็ต้องศึกษารายละเอียดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีเช่นเดียวกัน
เพราะความละเอียดและขั้นตอนที่หลากหลายของการแต่งหน้าส่งผลให้มีการออกแบบรูปร่างแปรงมาเพื่อจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับแปรงปัดแก้มนั้นหลัก ๆ แล้วจะแบ่งออกเป็น 4 ชนิดด้วยกัน ซึ่งแต่ละชนิดมีรูปร่างและมีประโยชน์อย่างไรนั้น วันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมมาให้อ่านกันแล้ว
เริ่มกันที่รูปทรงแรกคือทรง "หัวแบน" ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ปลายแปรงมีลักษณะแคบเพื่อให้สามารถเข้าไปในบริเวณเล็กๆอย่างซอกข้างจมูกได้ ปลายขนแปรงจะเป็นหน้าตัดแบบกลมมน ช่วยควบคุมน้ำหนักสี ปริมาณ และการกระจายตัวของบลัชออนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนิยมใช้กับฟังก์ชั่นอื่นนอกเหนือจากการปัดแก้มเช่น การไฮไลท์หรือการลงคอนซีลเลอร์ อีกด้วย
แปรงปัดแก้มชนิดนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งปัดบริเวณแก้ม หรือจะใช้เป็นแปรงอเนกประสงค์ก็ได้เช่นกัน หากใครที่เป็นมือใหม่ในการแต่งหน้าและยังไม่มีข้อมูลว่าควรเลือกซื้อแปรงแบบไหนดี แปรงปัดแก้มชนิดนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้น ๆ เลยค่ะ
ถัดมาเป็นแปรง "หัวกลม" ซึ่งเรียกชื่อตามลักษณะที่เมื่อมองจากปลายขนจะเห็นว่าเป็นทรงกลม เป็นแปรงที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ส่วนใหญ่จะมีลักษณะกลมฟูเป็นพุ่ม วิธีใช้คือปัดไปตามบริเวณที่ต้องการหรือจะเกลี่ยวน ๆ เป็นวงกลมก็ได้ ทั้งนี้เพื่อเน้นให้บลัชออนสามารถกระจายได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรมชาติ ควรเลือกแปรงกลมที่มีขนาดพอดีกับแก้มของเรา เพราะถ้าหากขนาดเล็กเกินไป อาจทำให้การลงสีไม่ทั่วถึงและเกิดเป็นจ้ำ ๆ ได้
สำหรับแปรง "หัวเฉียง" นั้นไม่ได้นิยมนำมาใช้สำหรับปัดแก้ม เพราะปลายแปรงที่มีหน้าตัดเฉียง จึงเหมาะกับการใช้เป็นอุปกรณ์ในการเฉดดิ้งและไฮไลท์เพื่อปรับรูปหน้ามากกว่า ถือว่าเป็นแปรงที่บรรดามืออาชีพเลือกใช้กันเป็นอย่างมาก มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้าอาจจะใช้งานได้ยาก ต้องอาศัยการฝึกฝนนะคะ
ตัวสุดท้าย คือ แปรงหัวมนหางกระรอกหรือที่หลายๆคนอาจจะคุ้นชื่อว่าเป็น เบลนดิ้งบลัช (Blending Brush) สำหรับแปรงรูปแบบนี้จะมีขนแปรงยาวและแคบลงที่ส่วนปลาย พุ่มแปรงไม่หนามาก เพื่อให้การเบลนสีฟุ้งกลมกลืนกัน แถมยังทำให้เกิดความบางเบาสวยเป็นธรรมชาติอีกด้วย
มาที่ส่วนประกอบสำคัญอย่าง “ขนแปรง” กันบ้าง ส่วนใหญ่เป็นที่ทราบกันดีว่าแปรงปัดแก้มนั้นมีทั้งที่ทำจากธรรมชาติหรือขนสัตว์และขนที่สังเคราะห์ขึ้น
สำหรับ “แปรงขนสัตว์” เช่น แปรงขนกระรอก ขนแพะ และขนม้า ก็จะมีลักษณะสีต่างกันออกไป โดยขนกระรอกและขนม้าจะมีขนแปรงออกสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนขนจากแพะจะมีสีขาวนวล จุดเด่นของขนสัตว์คือมีลักษณะเป็นเกล็ดซ้อนกันตามธรรมชาติทำให้จิกสีบลัชออนได้ดี อีกทั้งยังช่วยกระจายอณูแป้งบนใบหน้าทำให้สีชัดและติดอยู่บนใบหน้าของเราได้ยาวนาน นอกจากนี้ขนสัตว์ยังมีความนุ่ม ละเอียด ทำให้การเสียดสีกับผิวหน้าหรืออาการแปรงบาดหน้าเกิดขึ้นได้น้อยมาก
แต่ถึงอย่างไรก็ตามแม้ว่าความนุ่มนิ่มอ่อนโยนต่อผิวหน้าจะสร้างความประทับใจให้กับสาวๆ หลายคน แต่เจ้าขนสัตว์นี้ยังกวนใจเราเล็กน้อยด้วยราคาที่ถือได้ว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนสังเคราะห์ โดยเฉพาะขนแปรงที่ทำมาจากขนแพะและกระรอก แถมยังเสียรูปได้ง่ายหากทำความสะอาดบ่อยครั้งอีกด้วย
ส่วน “แปรงขนสังเคราะห์” นั้น เป็นเส้นใยที่เน้นความนุ่ม สังเคราะห์ขึ้นเพื่อเลียนแบบขนสัตว์ ซึ่งข้อดีขนแปรงประเภทนี้คือ ความคงตัวไม่เสียรูป ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ว่าล้างกี่ครั้งก็ยังคงทนทาน ช่วยลดโอกาสการเกิดแบคทีเรียสะสมซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้ดีกว่าขนสัตว์ แถมยังเอาใจชาวโต๊ะเครื่องแป้งด้วยราคาที่สามารถจับต้องได้อีกด้วย ถึงอย่างนั้น ขนสังเคราะห์ก็ยังมีข้อจำกัด คือ จับสีบลัชออนหรือเครื่องสำอางประเภทผงได้น้อย ดังนั้นจึงนิยมใช้กับเครื่องสำอางประเภทน้ำและเนื้อครีม เช่น ครีมบลัชหรือรองพื้น เป็นต้น
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นขนสัตว์หรือขนสังเคราะห์ การเลือกให้เหมาะกับวิธีใช้งานของเราให้มากที่สุดก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกนั่นเอง
ปิดท้ายกันด้วยขนาดของแปรง โดยปัจจุบันแปรงปัดแก้มจะมีขนาดตั้งแต่ 10 cm.ไปจนถึง 20 cm. แน่นอนว่าในแต่ละแบรนด์ก็จะมีขนาดให้เราได้เลือกอย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเรานั่นเอง
สำหรับใครที่มองหาแปรงไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งหรือใครชอบแต่งหน้าที่บ้าน ก็อาจจะเลือกแปรงที่มีความยาว เพื่อให้หยิบขึ้นมาใช้งานได้สะดวก จับถนัดมือ แต่หากใครที่ต้องแต่งหน้านอกสถานที่ ขอแนะนำให้เลือกใช้แปรงขนาดพกพาแทน หรือจะมีทั้งแปรงสำหรับแต่งหน้าที่บ้านและอีกอันสำหรับพกพา ก็เป็นไอเดียที่ทำให้คุณสะดวกทีเดียว
ถ้าหากกำลังมองหาแปรงปัดแก้ม ขอบอกเลยว่าแบรนด์ BrushToo เป็นอีกแบรนด์ที่ถูกและดี ที่สำคัญคือ มาตรฐานการจัดเรียงเส้นขนที่นุ่มแน่นและสม่ำเสมอ ทำให้ตัวแปรงจิกเนื้อสีได้ดี และแปรงที่จะแนะนำชิ้นต่อมาก็คือ แปรงทรงพุ่มกลมมน Tapered Blush Brush สำหรับปัดแก้มชิ้นนี้ เชื่อว่าคงเป็นอีกหนึ่งแปรงในดวงใจของสาว ๆ ได้อย่างแน่นอน เพราะขนแปรงที่นุ่มแน่นอยู่ทรงแต่ไม่บาดผิว ขนแปรงมีความฟูและนุ่มเด้งทำให้แตะเนื้อผลิตภัณฑ์ได้สีชัดเจน
เทคนิคการใช้คือ แตะแปรงไปที่สีบลัชออน แต่ก่อนจะลงสีไปที่หน้าเรา ให้แท็บสีลงที่หลังมือเล็กน้อยเพื่อเบรคสีและทำให้ฝุ่นสีกระจายตัวในแปรงได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น การปัดแก้มที่ออกมาสวย คือ สีของบลัชออนจะต้องนวลเนียนไร้ขอบ เพราะฉะนั้นเวลาเพื่อน ๆ ลงสีแก้มให้ลงสีทีละน้อย ๆ อย่างเบามือนะคะ จะใช้การปัดวนหรือการแท็บก็ได้แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนเลยค่ะ เทคนิคของเกษเวลาปัดแก้มคือ ลงสีที่อ่อน ๆ ก่อนทั่วพวงแก้ม ถ้าต้องการเข้มขึ้นให้ค่อย ๆ บิ้วท์สีที่เข้มขึ้นเพิ่มทีละนิด ๆ เพียงเท่านี้เราก็จะมีพวงแก้มสดใสเปล่งปลั่งสุขภาพดี ไม่เป็นแก้มลิงอย่างแน่นอนค่ะ
จากความพิถีพิถันในการคัดสรรแปรง และแล้วก็เข้าสู่ช่วง 10 อันดับแปรงปัดแก้มยอดฮิต ที่นอกจากคุณภาพจะครองใจเหล่าเมคอัพอาร์ติสท์แล้ว ยังเป็นไอเทมที่สามารถเลือกซื้อออนไลน์ได้ และยังได้รับการรีวิวจากผู้ใช้มากมายอีกด้วย จะเป็นไอเทมที่ผู้อ่านมองหาอยู่หรือไม่นั้น ตามมาชมกันเลย
ถ้าพูดถึงแบรนด์ NYX สาว ๆ หลายคนคงนึกถึงแต่เครื่องสำอางใช่ไหมคะ จริง ๆ แล้วเขายังมีแปรงคุณภาพดีด้วย อย่างรุ่นนี้เป็นแปรงหัวกลม ทำจากขนสังเคราะห์คุณภาพเยี่ยม ให้สัมผัสที่นุ่มและแน่นกำลังดี สามารถใช้ได้ทั้งปัดแก้มและลงรองพื้น หากใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์เนื้อครีม ก็จะเกลี่ยได้อย่างเรียบเนียนสนิท
นอกจากนี้ยังทำความสะอาดง่าย เนื่องจากขนสังเคราะห์ที่ทนทานต่อการซักล้าง ทำให้หมดห่วงเรื่องขนแปรงขาดหลุดร่วงไปได้เลยค่ะ
มาต่อกันที่แปรงจาก BRUSHWORK Cosmetics กันบ้าง แน่นอนว่า Collection ของแบรนด์เน้นที่ความเฉี่ยวของสีน้ำเงินตรงปลายตัดกับดำ เป็นแปรงที่มีขนนุ่มมาก ๆ เพราะผลิตจากขนสังเคราะห์พรีเมียม และยังมีคุณสมบัติเด่นคือ ขน Anti-Bacteria ที่สามารถป้องกันการเกิดแบคทีเรียที่ต้นเหตุของปัญหาผิวได้ด้วย
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ชอบลงบลัชแบบหนักมือแต่กลัวแก้มจะแดงเกินไป ตัวนี้ก็ออกแบบมารองรับการใช้งานของเราได้ดี เพราะความฟูและบางของแปรงจะช่วยให้แปรงกระจายได้ทั่วและได้ลุคฟุ้ง ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ขนาดของพุ่มแปรงที่พอดีกับพวงแก้ม ช่วยประหยัดเวลาในการเกลี่ยผลิตภัณฑ์ เพราะเพียงแค่ใช้แปรงรุ่นนี้ปัดเบา ๆ ก็ได้แก้มที่มีสีสันชวนมองแล้วค่ะ
ฟินกันให้สุดสำหรับแบรนด์จากบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังที่สร้างความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยจุดเด่นของแปรงที่มีน้ำหนักเบา ขนาดพอดีมือ สำหรับใครที่ชอบความแปลกใหม่ Real Techniques ก็จัดให้ด้วยแปรงที่มาพร้อมกับด้ามจับตั้งได้ ซึ่งทำจากอะลูมิเนียมสีชมพูมีสไตล์ ถูกใจสาว ๆ หลายคนสุด ๆ แถมขนแปรงสังเคราะห์ยังมีความทนทาน สีไม่ตก แห้งเร็วแม้ทำความสะอาดบ่อยครั้ง
ที่สำคัญยังได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในแปรงที่มีความนุ่มที่สุดอีกด้วย และไม่ว่าจะลงแป้ง บลัชออน บรอนเซอร์ แบรนด์นี้ก็ไม่ทำให้เราผิดหวังเพราะสามารถจิกและกระจายอณูแป้งออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่หากใครที่ชอบการแต่งหน้าที่เน้นสีบลัชบริเวณพวงแก้มหรือเป็นคนมือหนักแล้วล่ะก็ อาจจะต้องมองหาชิ้นอื่นแทน เพราะไม่อย่างนั้นแก้มอาจจะแดงเกินงามได้
เมื่อพูดถึงความทนทานต้องยกให้แปรงจาก Lunasol ไปเลย เพราะของเขาดีจริงๆ ถึงขนาดที่ได้รับการรีวิวจากผู้ใช้จริงว่า ใช้ได้ยาวนานกว่า 10 ปีเลยทีเดียว ส่วนความนุ่มละมุนของขนแปรงเป็นพิเศษ เพราะขนแปรงทำมาจากหนึ่งในขนกระรอกแท้พันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงอย่าง blue squirrel ทำให้เกลี่ยสีได้อย่างเรียบเนียนเข้ากับผิวได้เป็นอย่างดี ไม่เป็นปี้น ได้ความฟุ้งวาว ทำให้หน้าดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ที่ชอบการลงสีให้เกิดความเนียนสวยในลุค Matt-Satin เรียกได้ว่า เป๊ะปัง คุ้มค่าน่าลงทุนมาก ๆ
อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณภาพจะโดนใจหลายๆ คน แต่คุณสมบัติของแปรงตัวนี้ก็ยังคงเน้นไปที่การลงสีให้เนียนและบางเบา ดังนั้นใครที่ชอบลงสีหนัก ก็อาจจะต้องมองหาตัวอื่นแทน และที่สำคัญก็อย่าลืมว่าสรรพคุณด้านความทนทานที่ได้มานั้น ส่วนหนึ่งก็ต้องมาจากการดูแลอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน
อีกหนึ่งแปรงสุดฮิตจากอเมริกาที่หลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากความลงตัวของขนแปรงแบบผสมแล้ว ยังมีความนุ่มละมุน ไม่บาดผิวหน้า ขนแปรงบางเบาไม่แน่นจนเกินไป ทำให้สามารถกระจายสีได้สม่ำเสมอและเป็นธรรมชาติสุด ๆ เหมาะกับการเน้นสีบริเวณโหนกแก้มอย่างยิ่ง สำหรับใครที่ชอบการแต่งหน้าแบบโปร่งสบายเป็นธรรมชาติ ตัวนี้คือทางเลือกที่น่าสนใจมาก แถมยังได้รับการขนานนามให้เป็นพี่น้องกับแบรนด์ดังอย่าง MAC เลยทีเดียว
นอกจากนี้ด้ามจับยังชุบด้วยโลหะและดีไซน์มาเพื่อให้จับได้ถนัดมือ ทำให้สาวๆ สนุกกับการแต่งหน้าได้มากยิ่งขึ้น แต่อาจต้องระมัดระวังเรื่องการล้างทำความสะอาดเพราะขนแปรงค่อนข้างแห้งช้า ถ้าทำความสะอาดไม่ถูกวิธีจะมีผลต่อการหลุดร่วงของขนแปรงได้มากทีเดียว
แปรงปัดจาก NARS แบรนด์ขึ้นชื่อเรื่องการจิกสีบลัชที่แน่นสุดๆ ถูกออกแบบให้ขนแปรงไล่ระดับโค้งเรียวอย่างสวยงามลงตัว ขนแปรงทำจากขนแพะสีดำชั้นดี เหมาะสำหรับใช้ปัดแก้มและไฮไลท์ ยิ่งถ้าใช้กับบลัชออนสีเข้มของ NARS ก็ยิ่งคุมสีได้ดี หรือจะใช้เกลี่ยแป้งฝุ่นก็สามารถทำได้ สาว ๆ ที่ชอบการไล่ระดับสียิ่งต้องห้ามพลาด เพราะด้วยขนแปรงที่ไม่นุ่มไม่แข็งจนเกินไป ทำให้สามารถไล่ระดับและเบลนด์สีได้ดีมาก แถมยังเป็นแปรงที่ไม่กินเนื้อบลัชอีกด้วย
นอกจากนี้ จุดเด่นที่สำคัญ คงหนีไม่พ้นด้ามจับที่พันด้วยไม้วิสทีเรียสุดคลาสสิก สื่อถึงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและความดั้งเดิมของ NARS ออกมาได้อย่างสวยงามหรูหราสมราคา พร้อมออกแบบโคนด้ามเป็นพุ่มช่วยให้เราจับได้อย่างถนัดมือนั่นเอง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเรื่องการทำความสะอาด โดยไม่ควรล้างบ่อยเกินไป เพราะอาจจะทำให้ไม้วิสทีเรียชื้นและหลุดออกจากด้ามได้
ถ้าพูดถึงดีไซน์ที่สวยหรู ดูแพง ก็ต้องยกให้กับ Collection ระดับ 5 ดาวจาก Real Techniques ตัวนี้ ด้วยแปรงขนสังเคราะห์ขนาดเล็ก ทรงกลมปลายมน พร้อมด้ามยาวช่วยให้จับถนัดมือ สามารถกระจายน้ำหนักสีได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีรูปหน้าเล็ก ด้ามจับทำมาจากโลหะ (Metals) จึงแข็งแรงทนทาน ประกอบกับสี Rose Gold สุดหรูหรา ถึงจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ยังทำเอาสาว ๆ หลายคนหลงใหลจนต้องมีไว้ติดโต๊ะเครื่องแป้งกันเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังสามารถใช้สำหรับคอนทัวหรือไฮไลท์ได้ด้วย แม้ว่าจะพบปัญหาขนแปรงหลุดบ้างเมื่อทำความสะอาดบ่อยเกินไปแต่แปรงรุ่นนี้ก็ยังได้ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพขนแปรงที่ไม่ดูดสี เพราะเมื่อทำความสะอาดแล้วจะกลับมาเป็นสีขาวดูดีเหมือนเดิม
มาต่อกันที่แบรนด์ดังจากเยอรมนีที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ เพราะเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรงและความนุ่มที่ลงตัว สำหรับรุ่นนี้นั้นถูกออกแบบมาด้วยขนแพะคุณภาพเยี่ยม รูปร่างแบบเฉียง ทำให้สามารถโค้งรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ขนแปรงที่หนาพอเหมาะก็ทำให้การสปริงตัวและการเบลนด์สีทำออกมาได้อย่างลงตัวสวยงาม
ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถในการคอนโทรลการไล่เฉดสียังทำให้บรรดามืออาชีพต่างยกให้เป็นแปรงติดท็อปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่ถูกนึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ คนไหนที่ชอบการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติหรือให้ได้ลุคสดใส ใบหน้าโปร่งมีมิติ ต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน
แปรงกลมมนสุดหรูมาพร้อมด้ามจับสุดคลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ BOBBI BROWN ขนแปรงทำมาจากขนแพะและขนม้าเรียงตัวแน่นเป็นพุ่ม ซึ่งตรงนี้เองทำให้สามารถปัดและคุมสีบริเวณแก้ม ช่วงใต้ตา ร่องแก้ม หรือบริเวณเรียวหน้า ช่วงคาง ออกมาได้ดูดี สีไม่ดูกระจัดกระจาย หรือจะเอาไว้เบลนด์บรอนเซอร์ ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ขนแปรงยังจิกสีขึ้นมาได้อย่างพอดีเพียงแตะบลัชเบา ๆ แต่ไม่ควรล้างแปรงบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ขนแปรงเสียรูปทรงได้ง่าย
ด้วยราคาที่รุนแรงกับกระเป๋าตังค์เหลือเกิน ทำให้หลายคนต้องคิดหนักในการลงทุนไปบ้าง รวมถึงขนาดด้ามจับที่ยาว ก็ส่งผลให้ไม่สะดวกที่จะพกพาไปใช้ยามเดินทาง แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าใครที่ได้ลองใช้ก็ต่างมีฟีดแบคกลับมาเป็นเสียงเดียวกันว่าคุ้มค่ากับการลงทุนมากจริง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำอาชีพช่างแต่งหน้าหรือ Makeup Artist
มาถึงอันดับ 1 ที่ทำเอาสาวๆ ติดอกติดใจกันยกใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งแปรงคุณภาพขนาดเล็กรุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องความบางเบา มาพร้อมกับนวัตกรรมที่โดดเด่นอย่าง Duo Fibre Design โดยนำเอาขนแปรงทั้ง 2 ชนิดอย่างขนแพะสีขาวนวลและขนสังเคราะห์ที่นุ่มกำลังดีมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ด้วยความหนาที่ลดลงและการเรียงตัวให้มีช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างขนแปรง ทำให้แปรงจับสีขึ้นมาได้กำลังดี อีกทั้งตรงปลายแปรงส่วนที่แคบเข้ามานั้นยังช่วยให้การลงบลัชบนใบหน้ามีความแม่นยำมากที่สุดอีกด้วย
ดังนั้นสำหรับใครที่เน้นการลงสีเข้มหรือต้องการให้หน้าดูมีมิติมากขึ้นแล้ว ถือว่าแปรงตัวนี้ตอบโจทย์มากเลยทีเดียว เพราะเขาดีไซน์มาเพื่อทำให้การลงสีเกิดเป็นชั้นบาง ๆ และกระจายตัวได้อย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแปรงปัดแก้มที่มักใช้คู่กับเทคนิคการทำหน้าเรียวหรือเล็กลงนั้นเอง ที่สำคัญยังสามารถใช้ได้กับเครื่องสำอางประเภทอื่นอย่าง บรอนเซอร์ ไพรเมอร์ คอลซีลเลอร์ รองพื้น หรือจะใช้ไฮไลท์บริเวณจุดเล็ก ๆ ให้เกิดความฟุ้งสวยงามก็ได้เช่นกัน ถือว่าคุ้มค่าสุด ๆ ไปเลย
ในปัจุบันต้องยอมรับว่าราคาเครื่องสำอางตลอดจนอุปกรณ์เสริมความงามยี่ห้อชั้นนำต่าง ๆ มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่ได้ความคุ้มค่าและคุณภาพการใช้งานที่ดีตามมาด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อตามงบประมาณและความเหมาะสมก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นลำดับต้น ๆ
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนความสวยงามก็ยังคงอยู่คู่กับผู้หญิงเราทุกยุคทุกสมัย แต่อย่างไรแล้วต้องคำนึงไว้เสมอว่าความสวยที่ได้มาจากศิลปะการแต่งหน้านั้นเป็นเพียงความสวยงามแบบแต่งเติมชั่วคราว สาว ๆ ต้องไม่ลืมที่จะใส่ใจดูแลผิวในระยะยาว ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีคุณภาพและหมั่นทำความสะอาดอุปกรณ์เสริมความงามเป็นประจำเพื่อสุขอนามัยที่ดีเสมอด้วย