เมื่อพูดถึง “แป้งเด็ก” หลายคนก็จะนึกถึงแป้งฝุ่นที่ไม่ผสมรองพื้น ปราศจากสารเคมีอันตรายและค่อนข้างอ่อนโยน ผู้ใหญ่บางคนเลยชอบใช้ทาตัวหรือใช้เป็นเครื่องสำอาง ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ พากันคิดค้นสูตรใหม่ ๆ ออกมามากมายเพื่อตอบสนองได้ทั้งความต้องการของเด็กและผู้ใหญ่ เช่น รุ่นผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือสูตรควบคุมความมัน ฯลฯ ด้วยสาเหตุนี้เอง การเรียนรู้ “วิธีการเลือก” แป้งเด็กสูตรต่าง ๆ จึงเป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ ไม่ควรละเลยกันเชียวค่ะ เพราะถ้าเลือกผิดวัตถุประสงค์อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้กับลูกน้อย
เมื่อรู้วิธีการเลือกไปแล้ว หลาย ๆ คนก็คงอยากรู้ว่าสินค้ารุ่นไหนดี รุ่นไหนคนใช้เยอะกันใช่ไหมคะ แน่นอนว่า mybest มีคำตอบให้คุณเสมอค่ะ เพราะผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจและนำมาเปรียบเทียบราคา, คุณสมบัติ และรีวิว เพื่อจัดอันดับ “10 อันดับสินค้ายอดฮิต” มาให้อ่านกันด้วย ซึ่งแต่ละหัวข้อจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลยค่ะ
เชื่อว่าหลายคนต้องเกิดคำถามว่า “ต้องบอกด้วยหรอว่าแป้งเด็กคืออะไร” เพราะดูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ความเคยชินนี้เองค่ะที่ทำให้เรามองว่ามัน “ธรรมดา” จนละเลยคุณสมบัติสำคัญ ๆ ของแป้งเด็กไป
โดยทั่วไป แป้งเด็กจะมีส่วนผสมหลักจาก “แป้งข้าวโพด” หรือ “Talc (ทัลคัม)” นั่นเอง ทำให้มีคุณสมบัติซึมซับความชื้นได้ดีและควบคุมการระเหยของน้ำในชั้นผิวให้เป็นไปอย่างพอเหมาะ ซึ่งดีกับผิวของเด็กน้อยที่มักเกิดเป็นผดได้ง่าย โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่มีเหงื่อออกตามร่างกายเป็นปริมาณมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสองวัตถุดิบนี้จะมีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่การทำงานก็ไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียวนะคะ สำหรับแป้งข้าวโหดสามารถทำให้ผิวเนียนนุุ่มได้เพราะความสามารถในกับดูดซับน้ำที่สูง ในขณะที่ Talc จะดูดซับความชื้นเพื่อให้ผิวเนียนลื่น ทาแล้วจึงกลมกลืนไปกับผิว อย่างไรก็ตาม มีรายงานพบว่า Talc เป็นอันตรายต่อร่างกายหากได้รับต่อเนื่องเป็นเวลานานนะคะ เพราะเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว จะไปสะสมเป็นก้อนแป้งภายในนั้น เป็นสาเหตุของโรคร้ายตามมา
ส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้กันใช่ไหมคะ แค่ทาทั่วตัวหลังอาบน้ำ หรือหลังล้างหน้าก็พอแล้ว แต่จะดีกว่าไหมเอ่ย ถ้าเราลองมาเรียนรู้คุณประโยชน์ของเขาทั้งหมด เพื่อให้ใช้ได้ถูกที่ถูกเวลากัน
ใครที่กำลังมีลูกน้อยอยู่น่าจะเข้าใจปัญหานี้กันดีเลยใช่ไหมเอ่ย เพราะขอบแพมเพิสมักจะเสียดสีกับผิวเด็ก ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความอับชื้นจนอาจนำไปสู่ผื่นคัน ก่อนสวมแพมเพิสทุกครั้ง แนะนำให้ทาแป้งเด็กที่ก้นน้อย ๆ และบริเวณสะโพกเสียก่อนนะคะ เพื่อลดปัญหาดังกล่าวนั่นเอง
ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนต้องเคยเจอวันแย่ ๆ ที่ขอบเสื้อหรือแม้แต่สายเสื้อชั้นในเสียดสีกับผิวหนังจนระคายเคือง วิธีแก้ไขเฉพาะหน้าที่ดีที่สุด คือ การทาแป้งเด็กลงบนผิวบริเวณดังกล่าว เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ
ในเด็กเล็กก็เช่นกัน โดยเฉพาะเด็กจ้ำม่ำที่เหล่าผู้ใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าหยิก น่ามันเขี้ยว เพราะตัวเขามักจะมีเนื้อเป็นชั้น ๆ ซึ่งบางครั้งเนื้อส่วนนั้นก็ดันไปเสียดสีกับผิวส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ทำให้เกิดการเสียดสี สร้างความรำคาญและทรมานจนบางครั้งอาจนำไปสู่ผื่นคันหรือเป็นแผลเลยก็ได้ค่ะ
แม้ว่าการทาแป้งเด็กเพื่อป้องกันผื่นคันจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ลูกอ่อนมักทำเป็นประจำ แต่หากเกิดผื่นคันขึ้นมาแล้วพ่อแม่ไม่ควรทาแป้งเด็กให้เขาต่ออีกนะคะ แนะนำให้ซื้อยาที่ได้มาตรฐานมาทาหรือไปขอคำแนะนำจากเภสัชกรจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับเคสที่เกิดในผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ การทาแป้งเด็กก็ไม่สามารถรักษาได้ตรงจุดเช่นกัน แต่จะช่วยบรรเทาอาการคันหรือความเจ็บแสบลงได้ในระดับหนึ่งค่ะ
ด้วยความที่แป้งมักจะโปร่งแสง ทำให้กลมกลืนไปกับสีผิวได้ดีและค่อนข้างอ่อนโยน สาว ๆ หลายคน โดยเฉพาะคนที่มีสภาพผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวจึงมักใช้ผลัดหน้าเพื่อแทนการลงรองพื้น ในขณะที่คนที่มีสภาพผิวธรรมดาบางคนก็จะใช้ทาเซ็ตเครื่องสำอางเพราะช่วยให้เครื่องสำอางติดทนนานขึ้น อย่างไรก็ตามต้องระวังการเลือกเนื้อแป้งที่หยาบเกินไปด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นผิวจะดูไม่เรียบเนียนเอาได้
เพื่อน ๆ ต้องเข้าใจก่อนว่าแป้งเด็กไม่ได้ถูกทำมาเพื่อแต่งหน้าตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาลงแป้ง โดยเฉพาะคนที่ใช้เพื่อเซ็ตเครื่องสำอางจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยควรลงแต่บาง ๆ ขณะที่ผิวกำลังแห้งเท่านั้น เพราะถ้ามากเกินไป เนื้อแป้งอาจจับกับเครื่องสำอาง เช่น เบสเมคอัพ ทำให้อุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวได้ ขณะเดียวกันถ้าคุณเป็นสิวอยู่ก็อาจกระตุ้นให้สิวที่อักเสบหรือแผลจากการบีบมีอาการแย่ลงได้นะคะ
ทำความรู้จักกันไปพอสมควรแล้ว ลำดับต่อไปเราไปอ่านวิธีการเลือกกันเลยดีกว่าค่ะ และสำหรับคนที่คิดว่าไม่สำคัญ ขอเลื่อนไปอ่าน 10 อันดับเลยดีกว่า ผู้เขียนแอบกระซิบว่าระวังจะเลือกผิดนะจ๊ะ เพราะแป้งเด็กยังมีเรื่องราวที่น่ารู้และคำเตือนต่าง ๆ อยู่อีก ซึ่งจะมีอะไรกันบ้าง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่ะ
ข้อนี้หลายคนคงตระหนักถึงความสำคัญกันดีอยู่แล้ว เพราะอะไรที่ต้องสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงย่อมต้องอ่อนโยนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับผิวของเด็กน้อย วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เรารู้ได้เร็วและปลอดภัยที่สุด คือ การเช็คจากส่วนผสมนั่นเอง ซึ่งปกติแล้วจะมีหลัก ๆ ด้วยกัน 2 วัตถุดิบ คือ “แป้งข้าวโพด” และ “Talc” โดยจะมีรายละเอียดอย่างไร ตามมาอ่านกันค่ะ
อย่างที่เราทราบกันดีแป้งข้าวโพดถูกนำไปใช้ในการประกอบอาหารด้วย จึงค่อนข้างปลอดภัยต่อการใช้กับเด็ก โดยแป้งประเภทนี้จะมีคุณสมบัติช่วยดูดซับความชุ่มชื้น ทำให้ผิวอิ่มน้ำอยู่ตลอดเวลา พร้อมช่วยต้านเชื้อโรคและทำให้อาการระคายเคืองทุเลาลง จึงเหมาะกับการใช้ป้องกันผื่นคันต่าง ๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวังสักนิดนึงนะคะ เพราะแป้งข้าวโพดมีลักษณะเป็นผงสีขาวเนียนละเอียด หากร่วงหล่นเลอะเสื้อผ้าสีเข้มแล้วจะปัดออกยาก ทำให้เป็นจุดสังเกตได้ง่าย
สารชนิดนี้มีส่วนผสมของ Magnesium Hydroxide มีลักษณะเป็นผงสีขาวโปร่งแสง จึงมีคุณสมบัติกลมกลืนไปกับผิวและทำให้ผิวเนียนลื่น ส่งผลให้แบรนด์เครื่องสำอางต่าง ๆ นิยมใช้เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของแป้ง เช่น แป้งเด็ก, แป้งฝุ่น, แป้งทาหน้าหรือแม้แต่แป้งรองพื้น
อย่างไรก็ตาม มีการรายงานพบว่า Talc อาจเป็นโทษกับร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ รวมไปถึงอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็ง เพราะหากสูดดมนาน ๆ เซลล์บุผิวของปอดจะจับแป้งไว้เป็นก้อน เมื่อสะสมนานวันเข้าจะทำให้ปอดทำงานผิดปกติ เช่นเดียวกับการทาแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้น ผงแป้งอาจหลุดเล็ดลอดเข้าไปภายในร่างกาย ทำให้เกิดการสะสมภายใน เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง
หากเราใช้แป้งเด็กผิดวิธี จากที่ผิวจะคงไว้ซึ่งความชุ่มชื้นอาจกลายเป็นแห้งกร้านเลยก็ได้นะคะ โดยเฉพาะผิวของเด็ก ๆ ด้วยเหตุนี้หลายแบรนด์ผู้ผลิตจึงใส่ส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์มาในแป้งเด็กด้วย ดังนั้นเวลาซื้อเราจึงควรเช็คด้วยว่ารุ่นนั้น ๆ มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ต่าง ๆ เช่น สควอลีน (Squalane) ด้วยไหม เพื่อให้ผิวของลูกน้อยได้รับความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ ลดความเสี่ยงที่ผิวจะแห้งกร้าน
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอีกหนึ่งชนิดที่ค่อนข้างน่าสนใจ นั่นคือ “สารสกัดจากรากของต้น Trichosanthes kirilowii” เพราะค่อนข้างอ่อนโยนกับผิว ใช้แล้วมีโอกาสแพ้น้อยมาก ถ้าลูก ๆ หรือผิวของใครบอบบางมากเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกซื้อรุ่นที่มีส่วนผสมชนิดนี้เป็นหลักเลยค่ะ
ส่วนใหญ่แล้วแป้งเด็กมักมีความจุที่ค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ จึงต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานของคุณด้วย เช่น ถ้าซื้อมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองหรือผื่นคันเพียงอย่างเดียวควรจะเลือกไซซ์เล็กดีกว่า เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ถ้าซื้อขวดใหญ่มาเลย เดี๋ยวจะใช้ไม่ทันเอานะจ๊ะ
สำหรับใครที่เพิ่งซื้อเป็นครั้งแรก แนะนำให้ลองซื้อไซซ์เล็กก่อนนะคะ เพื่อดูก่อนว่าเหมาะกับลูกน้อยหรือผิวของคุณไหม ถ้าใช้แล้วไม่เวิร์คจะได้ไม่ต้องเสียดายเงินมาก
หลายคนอาจจะไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้กันเท่าไร เพราะส่วนใหญ่แบรนด์จะออกแบบมาให้เข้ากับการใช้งานของคุณอยู่แล้ว แต่ถ้าใครอยากใส่ใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ ผู้เขียนขอแนะนำให้เช็คจากวัตถุประสงค์ของเราก่อนค่ะ อย่างถ้าใครเน้นใช้กับเด็ก ๆ ก็เลือกแบบขวด เพราะจะช่วยให้ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เหมาะกับการจัดการกับเด็ก ๆ ที่ซุกซน แต่ถ้าใครซื้อเพื่อใช้แต่งหน้า แนะนำให้เลือกรุ่นที่เป็นกระปุกหรือตลับแทนจะดีกว่า ยิ่งถ้ามีพัฟแถมมาด้วยยิ่งดีเลย
สำหรับเด็กทารก ถ้าช่วงแรกเกิดยังไม่เริ่มคลาน การเคลื่อนไหวของเขาก็จะยังไม่มาก คุณแม่จะเลือกใช้รุ่นที่เป็นกระปุกกลมก็ได้นะคะ แต่ถ้าเริ่มคลานแล้ว แนะนำให้ใช้แบบขวดจะดีกว่า เพราะเด็กจะเริ่มซุกซน ไม่อยู่เฉยให้คุณแม่ทาแป้งง่าย ๆ แล้วจังหวะรีบ ๆ นั้นเองที่อาจทำให้กระปุกแบบกลมคว่ำหกลงได้
เมื่อพูดถึงแป้งเด็ก ทุกคนมักจะจินตนาการถึงแป้งฝุ่นกันใช่ไหมค่ะ แต่จริง ๆ น้องเขามีหลายเนื้อสัมผัสมาก ซึ่งแต่ละเนื้อก็เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันออกไป ดังนั้นเพื่อน ๆ จึงอย่าลืมใส่ใจเรื่องนี้ด้วยนะจ๊ะ
เนื้อฝุ่น : ลักษณะเนื้อจะฟุ้งกระจายและแผ่เคลือบผิวได้กว้าง ยิ่งถ้ามีพัฟด้วยแล้วจะยิ่งช่วยให้ทาง่ายขึ้น จึงเหมาะกับการใช้ทาในพื้นที่กว้างหรือคนที่ต้องใช้ในปริมาณเยอะ เช่น ทาตัว ทาขา
เนื้ออัดแข็ง : ตัวแป้งจะไม่ฟุ้งกระจาย เหมาะกับการทาหน้าหรือลำตัวช่วงบนของลูกน้อย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสูดแป้งเข้าไปในปอดจนเป็นเหตุให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมา
เนื้อโลชั่น : ลักษณะเป็นเนื้อโลชั่น เมื่อแห้งแล้วจะกลายเป็นแป้งเคลือบผิว เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องระบบทางเดินหายใจเป็นพิเศษ
ตอนนี้หลายคนคงรู้แล้วว่าแป้งลักษณะไหนที่เหมาะกับเบบี๋ตัวน้อย แต่ถ้าให้ไปเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เองตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากรุ่นไหนดีใช่ไหมเอ่ย เพราะยังไม่รู้ว่ามีสินค้าไหนที่น่าสนใจบ้าง ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้เราได้รวบรวมมาให้ทุกคนอ่านกันเรียบร้อยแล้ว
คุณแม่คนไหนที่กำลังตามหาแป้งเด็กที่อ่อนโยนกับผิวลูกน้อยมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ลองซื้อรุ่นนี้ดูนะคะ เพราะมีส่วนผสมของ Allantoin สารสกัดจากพืชธรรมชาติ ช่วยป้องกันการระคายเคืองและปกป้องผิวจากผื่นผ้าอ้อมและผื่นจากความเปียกชื้น พร้อมใช้กระบวนการ Sterilization (ทำให้ปราศจากเชื้อ) เพื่อให้ได้เนื้อแป้งที่สะอาดปลอดภัย โดยผ่านการทดสอบทางการแพทย์แล้วว่าไม่ทำให้เกิดการแพ้ นอกจากนี้ยังมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ เนื้อแป้งเนียนละเอียดและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ใช้แล้วไม่ระคายเคือง แห้งสบายตัวและกันความชื้นได้ในระดับหนึ่ง แต่หน้าร้อนอาจต้องทาบ่อยสักนิดหนึ่ง
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Johnson มีหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก ซึ่งรุ่นนี้มีหน้าตาคล้ายกับอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นของผู้ใหญ่ ดังนั้นก่อนการเลือกซื้อจึงควรอ่านฉลากและสังเกตบรรจุภัณฑ์ให้ดีนะคะ โดยรุ่นนี้เป็นแป้งที่ผลิตจาก Talc เป็นหลัก แต่ทางแบรนด์ได้ปรับปรุงสูตร เพื่อให้อ่อนโยนต่อผิวลูกน้อยมากขึ้น และได้รับการทดสอบแล้วว่าปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีหลายขนาดให้เลือกซื้อ ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการเลยค่ะ ด้านผลลัพธ์การใช้งาน รุ่นนี้มีเนื้อแป้งที่ละเอียดเหมาะกับการทาตัว เนื้อเนียนลื่นไปกับผิวและส่งกลิ่นหอมติดทนนาน ช่วยให้รู้สึกสบายตัว อย่างไรก็ตาม หลายคนยังบ่นว่ากลิ่นแรงไปอยู่นะคะ คุณแม่คนไหนที่ชอบกลิ่นอ่อน ๆ แนะนำให้ลองซื้อไซซ์เล็กมาใช้ดูก่อน
รุ่นนี้ถือว่าน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ เพราะเป็นสูตรเนื้อโลชั่น จึงช่วยตัดปัญหาแป้งฟุ้งกระจายจนเด็กเผลอสูดเข้าไปหรือเปรอะเลอะเสื้อผ้า ถือเป็นทางออกสำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องสุขภาพของลูกน้อยมากเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของสาร Allantoin ช่วยป้องกันผดผื่นจากความเปียกชื้น และอุดมไปด้วยมอยสเจอร์ไรเซอร์ ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ปัจจุบันมีสองไซซ์ให้เลือกซื้อ เนื้อโลชั่นมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ทาแล้วเปลี่ยนเป็นแป้งได้ไว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะและยังมอบกลิ่นหอมติดทน ส่วนเรื่องแพ็กเกจก็ทำออกมาได้ดี มีส่วนเว้าส่วนโค้งช่วยให้จับถนัดมือและช่วยให้พกพาสะดวกมากขึ้น
เริ่มต้นกันด้วยแบรนด์ที่คุณแม่หลายคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว รุ่นนี้เป็นสูตรไฮโป-อัลเลอร์เจนิก ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือการแพ้ มาพร้อมสารสกัดจากขมิ้น ช่วยป้องกันและลดผดผื่นที่เกิดจากความเปียกชื้น ทั้งยังช่วยให้ผิวกายของลูกน้อยหอมด้วยกลิ่นที่อ่อนโยน ไม่เหม็นฉุน คุณแม่หลายคนจึงเลือกใช้ จากการใช้จริง หลายคนบอกว่าเนื้อเนียนละเอียด ไม่มีสี ทาแล้วเนียนลื่น กลิ่นกระจายตัวได้ดีและติดทนนาน นอกจากนี้ยังช่วยลดความเปียกชื้นได้ด้วยค่ะ
มาถึงอันดับที่ 1 ของเรา ขวัญใจชาวเน็ต สูตรใหม่ล่าสุดจาก Baby Mild เรามาดูกันดีกว่าว่าเขามีดีอะไรกัน รุ่นนี้มีส่วนผสมของเอสเซ้นท์เข้มข้นจากดอกซากุระขาว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานส่งผลให้เนียนนุ่มมากขึ้น และอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยให้ผิวกระจ่างใส โดยได้รับการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเนื้อแป้งอณูเล็ก ทาแล้วเรียบเนียนกลืนไปกับผิว พร้อมมีกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและไม่เหนอะหนะผิว แถมยังช่วยดูดซับความชื้นได้ดีอีกด้วย ถือเป็นรุ่นที่ครองใจทั้งคุณแม่และคุณลูกเลยค่ะ
มีของเด็ก ๆ ไปแล้ว จะขาดของผู้ใหญ่ได้อย่างไร เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ารุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ แต่อย่าลืมนะคะ เลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวคุณมากกว่าการยึดติดกับอันดับเพียงอย่างเดียว
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Pigeon ก็มีแป้งฝุ่นสำหรับทาหน้าด้วยนะจ๊ะ เป็นแบบอัดแข็ง มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่าง Squalane และ Glygerin คอยให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยปราศจากการแต่งสีและแต่งกลิ่น จึงค่อนข้างอ่อนโยนกับผิวพอสมควร ดังนั้นไม่ว่าจะสาว ๆ หรือเด็กที่เริ่มโตอยากแต่งหน้าบ้างก็สามารถใช้ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้มีส่วนผสม Talc นะคะ แต่ด้วยความที่แป้งไม่ฟุ้งกระจายจึงค่อนข้างปลอดภัยพอสมควร เหมาะกับการใช้ทาเพื่อลดความเหนียวเหนอะหนะหลังลงเครื่องสำอาง เช่น ครีมกันแดด
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าศรีจันทร์มีกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กด้วยนะคะ แต่แป้งฝุ่นรุ่นนี้แม้ว่าจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมในกลุ่มเด็ก ๆ เท่าไร แต่สำหรับสาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่ายหรือเป็นสิวแต่อยากแต่งหน้าบ้างกลับเป็นที่ชื่นชอบมากทีเดียวค่ะ เพราะด้วยส่วนผสมของ Defensil จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองต่าง ๆ และกระตุ้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น แถมยังปราศจากสารกันเสียพาราเบนอีกด้วย เนื้อแป้งสีขาวเนียนละเอียด ไม่ฟุ้งกระจาย มาพร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ แนะนำให้ทาบาง ๆ ดูก่อนนะคะ เดี๋ยววอกได้ โดยสาว ๆ ที่ใช้จริงบอกว่าแป้งช่วยคุมความมันได้ดี ทำให้อาการระคายเคืองและสิวดีขึ้น แต่ข้อเสียเล็กน้อย คือ แพ็กเกจใช้งานไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไรนะคะ
แป้งฝุ่นรุ่นนี้น่าสนใจทีเดียวค่ะ เพราะเป็นสูตรช่วยซึมซับเหงื่อ ป้องกันการเกิดผดผื่น ช่วยทำให้ผิวสะอาดอยู่ตลอดเวลา โดยผ่านการทดสอบอาการแพ้แล้วเรียบร้อย จึงค่อนข้างปลอดภัยในระดับหนึ่ง นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากใช้ทาตัวด้วย รุ่นนี้เขาก็มีแบบขวดให้เลือกซื้อกันด้วยนะคะ มาดูด้านผลลัพธ์การใช้งานกันบ้าง เนื้อแป้งสีขาวเนียนละเอียดและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อทาแล้วให้สัมผัสเนียนลื่น สามารถใช้ทาเดี่ยว ๆ หรือเซ็ตหลังลงเครื่องสำอางก็ได้ โดยไม่มีอาการแพ้ พร้อมช่วยควบคุมความมันและติดทนในระดับหนึ่ง
หนึ่งในแป้งเด็กสำหรับทาหน้าที่ฮอตฮิตของสาว ๆ โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ผลิตจาก “ข้าว” เป็นส่วนผสมหลัก พร้อมผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ ทำให้สะอาดและปลอดภัยแม้ผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ยังปราศจาก Talc และได้รับการทดสอบแล้วเรียบร้อยแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ปัจจุบันมีหลายไซซ์และหลายแพ็กเกจให้เลือก ทั้งแบบขวดเขย่าและแบบกระปุก ตอบโจทย์ทุกลักษณะการใช้งานเลยค่ะ เนื้อแป้งละเอียดประมาณหนึ่ง มีสีขาวและกลิ่นหอมคล้ายข้าวอ่อน ๆ ซึ่งช่วยควบคุมความมันได้ดี ไม่ทำให้สีเครื่องสำอางเพี้ยน อย่างไรก็ตามแนะนำให้ทาบาง ๆ เท่านั้นนะคะ โดยเฉพาะคนที่ใช้เซ็ตเครื่องสำอาง เพราะแป้งอาจจับเป็นคราบได้ แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติอื่น ๆ ถือว่าน่าใช้มากทีเดียว
ถ้าพูดถึงแป้งเด็กสำหรับทาหน้าจะไม่พูดถึงรุ่นนี้ได้อย่างไรกัน เพราะมียอดรีวิวในอินเทอร์เน็ตถล่มทลายเชียวค่ะ โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดสิว โปร่งแสงและใช้ได้กับทุกสภาพผิว ซึ่งถูกบีบอัดมาในรูปแป้งอัดแข็ง เพื่อลดการฟุ้งกระจายตัว นอกจากนี้ในตลับยังแถมพัฟมาให้ด้วย จึงถือว่าคุ้มราคามากทีเดียว เนื้อแป้งสีขาวบางเบาและไม่มีกลิ่น หลังทาแล้วรู้สึกสบายผิวหน้า และยังช่วยควบคุมความมันได้ค่อนข้างดี ส่วนพัฟก็ค่อนข้างนุ่มทีเดียวค่ะ ทั้งหมดนี้จึงทำให้สาว ๆ หลายคนเลือกใช้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ “แป้งเด็ก” ที่ดูธรรมดา ไม่มีคุณสมบัติอะไรพิเศษ จริง ๆ แล้วมีประโยชน์มากเลย เพื่อน ๆ หลายคนคงอยากจะซื้อมาใช้กันแล้วใช่ไหมเอ่ย ลองหารุ่นที่เหมาะกับลูกน้อยหรือตัวคุณจาก 10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี โดยใช้วิธีการเลือกที่เราแนะนำในการตัดสินใจกันดูนะคะ อย่ายึดติดกับอันดับของสินค้าอย่างเดียว เพราะตามที่เราบอกกันไปว่า “ของที่ดีกับคนอื่น อาจไม่เหมาะกับเราก็ได้”
สุดท้ายนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ผู้เขียนกล่าวปิดท้ายกันเลยดีกว่า ใครที่รู้สึกว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์กันต่อ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนนะคะ