กรองอากาศ เคล็ดลับการดูแลรถยนต์ที่หลายคนมองข้าม
เพราะเรื่องฝุ่นไม่ใช่เรื่องเล็ก เห็นได้จากปัญหาฝุ่นควันต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีที่เราต่างก็รู้กันดีว่าถ้าไม่แก้เสียตั้งแต่ที่ต้นเหตุนั้น เราก็ทำได้เพียงแค่ป้องกันตัวเองกันต่อไป และปัญหานี้ไม่ได้แค่เกิดแค่กับคน แต่ยังส่งผลกระทบได้ถึงรถยนต์อีกด้วย นึกไม่ถึงกันล่ะสิ ถ้าหากยังไม่รู้ก็มามุงทางนี้ เราจะพาไปรู้จักไส้กรองอากาศหรือกรองอากาศรถยนต์ ราคา และการตรวจสอบกรองอากาศง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เพื่อรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพและเครื่องยนต์ที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นที่คุณเองก็คาดไม่ถึง
อัพเดตราคากรองอากาศยอดนิยม พร้อมกรองอากาศรถยนต์ ราคาล่าสุดจากร้านค้าออนไลน์ทั่วไทย จาก iPrice Thailand
- กรองอากาศ Denso TOYOTA HILUX VIGO อะไหล่แท้ ไส้กรองอากาศรถยนต์ ราคาเริ่มต้น 685 บาท
- ราคากรองอากาศ Toyota Corolla EE100-EE111 - เครื่อง 3 กรองอากาศรถยนต์ ราคาเริ่มต้น 200 บาท
- ราคากรองอากาศ Mitsubishi L300 1992-1999 - เครื่อง 5 กรองอากาศรถยนต์ ราคาเริ่มต้น 350 บาท
- ราคากรองอากาศ Mazda 3 - เครื่องศูนย์ ไส้กรองอากาศรถยนต์ ราคาเริ่มต้น 270 บาท
- ราคากรองอากาศ Toyota ชุดกรองอากาศ Toyota Vios 2002-2006 ไส้กรองอากาศรถยนต์ ราคาเริ่มต้น 170 บาท
*ราคากรองอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลง
กรองอากาศคืออะไร จำเป็นจริงไหม?
ชื่อเค้าก็บอกแล้วว่ามีไว้กรองอากาศถึงบางทีก็มีคนเรียกไส้กรองอากาศก็เถอะนะ แต่ว่าจะกรองจากอะไรหรือยังไงนั้นเรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน เพราะจริง ๆ แล้วมีผู้ใช้รถมากมายที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับเจ้าอุปกรณ์กรองอากาศหรือไส้กรองอากาศตัวนี้ เพราะคิดแค่ว่าการกรองอากาศเป็นเพียงแค่การกรองฝุ่น จะว่าไปแล้วมันก็กรองฝุ่นจริง ๆ ละนะ แต่เพราะเจ้าฝุ่นเล็ก ๆ นี่แหละที่จะเป็นตัวแปรให้ให้เครื่องยนต์สามารถแสดงสมรรถภาพได้สูงสุดรวมถึงอายุการใช้งานของเครื่องยนต์อีกด้วย ทำไมเหรอ? แน่นอนเพราะเจ้าฝุ่นพวกนี้จะไปเกาะตามที่ต่าง ๆ ในเครื่องยนต์ นานวันเข้าก็จับตัวกันเป็นจนมีลักษณะเหมือนเม็ดทราย ลองหลับตานึกภาพเม็ดทรายที่เกาะตามเครื่องยนต์ โดยเฉพาะร่องแหวนหรือผนังกระบอกสูบของเครื่องยนต์ แล้วจะเป็นยังไงต่อน่ะเหรอ ลองนึกภาพต่อเป็นการใช้กระดาษทรายค่อย ๆ ถูกับชิ้นส่วนเหล่านั้นดู นึกออกแล้วใช่ไหมล่ะ... เพราะเจ้าพวกฝุ่นนี้นอกจากจะขัดขวางการทำงานแล้วยังทำให้ตัวกระบอกสูบและเครื่องยนต์เสียหายเร็วกว่าที่ควรนั่นเอง
เลือกกรองอากาศแบบไหนดีที่สุด?
- กรองอากาศแบบแห้ง เรียกได้ว่าเป็นไส้กรองอากาศที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยแบ่งเป็น 2 แบบ คือ ไส้กรองอากาศแบบกระดาษกรองกับไส้กรองอากาศแบบที่มีน้ำยาเคลือบกระดาษกรองเอาไว้ ซึ่งจะเป็นการเคลือบด้วยน้ำยาที่จะช่วยให้ดักจับฝุ่นต่าง ๆ ได้ดีขึ้นนั่นเอง นอกจากไส้กรองอากาศกระดาษแล้วยังมีไส้กรองอากาศแสตนเลสที่นิยมใช้กับรถแข่ง และไส้กรองอากาศแบบผ้าที่ทำความสะอาดง่าย ซักได้แบบสบายใจไร้กังวล
- กรองอากาศแบบเปียกบ้างก็เรียกไส้กรองอากาศแบบน้ำมัน คือการใช้น้ำมันมาเคลือบกับตัวกรองเพื่อให้สามารถดักจับฝุ่นได้มากขึ้น โดยมากใช้กับจักรยานยนต์หรือรถยนต์รุ่นเก่า ๆ แต่ก็สามารถใช้กับรถใหม่ก็ใช้ได้ไม่ว่ากัน
สังเกตุและเปลี่ยนกรองอากาศได้อย่างไร?
เหมือนกับตัวกรองอื่น ๆ ที่เมื่อใช้ไปสักพักก็จะมีฝุ่นมาเกาะจนเต็ม ฉะนั้นก็แค่หมั่นตรวจสอบก่อนที่กรองอากาศจะอุดตัน โดยทั่วไปจะทำการตรวจเช็คในทุก 2,000 - 5,000 กิโลเมตร ส่วนตัวไส้กรองอากาศเองก็ควรเปลี่ยนในทุก 20,000 กิโลเมตร แต่ถ้าต้องใช้รถในบริเวณที่มีฝุ่นมาก ๆ ก็อาจต้องเปลี่ยนเร็วกว่านั้น หรือหากสังเกตุว่าตัวไส้กรองอากาศเริ่มอุดตันมากแล้วก็สามารถเปลี่ยนโดยยึดหลักความสะดวกและเหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานได้เลย
การใช้กรองอากาศโดยสรุป
การใช้กรองอากาศกับรถยนต์ ก็เหมือนกับความรักที่ต้องมาควบคู่กับความใส่ใจ คือหมั่นดูแลกันทั้งภายใน (จิตใจ) และภายนอกตามความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันราคากรองอากาศก็ไม่ได้สูงมาก แถมมีโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้เลือกซื้อกันไม่หวาดไม่ไหว ดังนั้นจึงไม่ใช่ข้ออ้างที่จะบอกว่าไม่เป็นไรหรือเอาไว้ก่อนอีกต่อไป ใช่แล้ว… ถ้ารักแล้วก็ต้องดูแลกัน อย่าให้รถคันโปรดของคุณต้องรอ เพราะความสึกหรอมันไม่เข้าใครออกใคร ถือว่าเตือนกันตรงนี้แล้วนาจา
แต่ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ก็แปลว่าคุณเองก็ใส่ใจและให้ความสำคัญกับกรองอากาศรถยนต์ ราคาเช็คง่าย ๆ กับ iPrice Thailand ที่จะช่วยให้ทุกการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นเรื่องง่ายในคลิกเดียว เลือกค้นหา ตรวจสอบโปรโมชั่นกรองอากาศรถยนต์ ราคาถูกกว่าใคร ไม่ว่ายี่ห้อไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็น ราคากรองอากาศหรือไส้กรองอากาศ Denso กรองอากาศ ราคา หรือตรวจสอบราคากรองอากาศจาก Mitsubishi , Toyota , Honda , Mazda , Isuzu , Nissan เราก็เตรียมมาให้แล้ว คลิกเลย!
