หากพูดถึงการพิมพ์รูปภาพหรือเอกสาร อุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คงหนีไม่พ้นเครื่องปริ้นใช่มั้ยล่ะคะ และหากได้ไปถึงร้านขายอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แบรนด์เครื่องปริ้นที่เราคุ้นเคยกันน่าจะเป็น Epson, Canon, Brother ฯลฯ ในช่วงหลังมานี้ก็มีเครื่องปริ้นที่สามารถใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแม้แต่เชื่อมต่อ Wi-Fi เรียกได้ว่าเพิ่มความสะดวกความสบายให้กับผู้ใช้เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ราคาของเครื่องปริ้นตามท้องตลาดก็ยังถูกลงเรื่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนรุ่นและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมาอย่างนับไม่ถ้วนนี้ก็ทำให้การตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปริ้นสักเครื่องกลายเป็นเรื่องค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกเครื่องปริ้นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันอันหลากหลาย รวมไปถึงแนะนำเครื่องปริ้นยอดนิยมให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน เพื่อให้มีเครื่องปริ้นคู่ใจไว้ใช้ไปนาน ๆ เราไปดูกันเลยค่ะว่าควรเลือกจากอะไรบ้าง
การตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องปริ้นนั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นในการใช้งานเครื่องปริ้นของแต่ละคนค่ะ ยังไงเพื่อน ๆ ลองเลือกเครื่องปริ้นที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองดูนะคะ
เครื่องปริ้นสำหรับใช้ในบ้านสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ เรามาดูกันก่อนค่ะว่าประเภทของเครื่องปริ้นแบบไหนจะเหมาะกับการปริ้นแบบใดกันบ้าง
เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทเป็นเครื่องปริ้นที่มีขนาดเล็กแต่สามารถใช้งานได้หลากหลาย จึงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานในบ้านค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์รูปหรือภาพถ่ายที่มีสีเยอะ ก็ไม่ทำให้สีผิดเพี้ยน ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นของเครื่องปริ้นประเภทนี้เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ยังมีรุ่นและยี่ห้อให้เลือกมากมาย ราคาถูกแถมหาซื้อได้ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ
ถึงอย่างไรก็ตาม แม้ตัวเครื่องปริ้นจะมีราคาถูก ตัวหมึกกลับไม่ได้ถูกตามไปด้วย ไม่ว่าตัวเครื่องปริ้นจะมีราคาถูกแค่ไหน หากพิมพ์ภาพที่มีสีเยอะ ๆ ก็จะทำให้การพิมพ์นั้นมีราคาสูงอยู่ดี ดังนั้นเวลาที่เราเลือกซื้อเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ท จึงควรดูทั้งราคาของเครื่องปริ้นและตัวหมึกไปพร้อม ๆ กันค่ะ
เครื่องปริ้นเลเซอร์เป็นเครื่องปริ้นที่มักพบเห็นได้ตามออฟฟิศหรือร้านถ่ายเอกสาร แต่ปัจจุบันนี้คนก็นิยมซื้อมาใช้กันตามบ้านหรือออฟฟิศเล็ก ๆ เหมือนกันค่ะ นอกจากจะใช้หมึกแบบกันน้ำแล้ว ค่าใช้จ่ายในการใช้งานยังถือว่าไม่แพงมากอีกด้วย ถึงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีราคาสูงแถมยังมีขนาดใหญ่กินพื้นที่ แต่หากต้องใช้พิมพ์เอกสารที่มีจำนวนมากเป็นร้อย ๆ แผ่นหรือต้องการใช้งานในระยะยาว รับรองว่าคุ้มแน่นอนค่ะ
เครื่องปริ้นเลเซอร์มี 2 ประเภทให้เลือกได้แก่แบบปริ้นสีและแบบปริ้นขาวดำ แต่หากพูดในแง่ของความคมชัดในการพิมพ์สีเครื่องปริ้นชนิดนี้ยังด้อยกว่าเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทอยู่พอสมควร ดังนั้นสำหรับคนที่เน้นการพิมพ์สีอาจจะลองใช้เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทและเครื่องปริ้นเลเซอร์แบบขาวดำควบคู่กันไปก็ได้ค่ะ
เครื่องปริ้นที่เราใช้กันยังสามารถแบ่งตามการใช้งานออกได้เป็นหลากหลายชนิด ดังนั้นต่อจากนี้เราจะมาแนะนำเครื่องปริ้น 3 ชนิดหลัก ๆ โดยแบ่งตามลักษณะการนำไปใช้งานให้เพื่อน ๆ ได้ดูกัน ลองเลือกใช้งานตามความเหมาะสมดูนะคะ
เครื่องปริ้นสำหรับพิมพ์อย่างเดียว แค่ชื่อก็บอกไว้อย่างชัดเจนแล้วค่ะว่าสามารถใช้เพื่อพิมพ์งานได้เท่านั้น เครื่องปริ้นชนิดนี้มีฟังก์ชันการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน ขนาดกะทัดรัดแถมยังราคาถูกกว่าเครื่องปริ้นชนิดอื่น ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการใช้เครื่องปริ้นเพียงเพื่อพิมพ์ภาพถ่ายและเอกสารแล้วถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานเลยค่ะ ดังนั้นแทนที่จะซื้อเครื่องปริ้นราคาแพงที่มีฟังก์ชันมากจนเกินความจำเป็นของเรา ลองเลือกเครื่องปริ้นสำหรับพิมพ์เพียงอย่างเดียวมาใช้ดูนะคะ
เครื่องปริ้นภาพถ่ายเป็นเครื่องปริ้นที่ถูกออกแบบมาเพื่อพิมพ์ภาพถ่ายโดยเฉพาะค่ะ จุดเด่นคือเครื่องปริ้นไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แต่สามารถเชื่อมต่อกับกล้องดิจิทัลหรือสมาร์ทโฟนแล้วสั่งปริ้นได้โดยตรง นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีขนาดกะทัดรัดที่สุดในบรรดาเครื่องปริ้นทั้งหมด ถึงแม้จะอยู่ในระหว่างเดินทางก็ยังสามารถพิมพ์รูปภาพออกมาได้
อย่างไรก็ตาม เครื่องปริ้นประเภทนี้ก็มีข้อจำกัดในการพิมพ์เหมือนกันค่ะ เช่น ไม่สามารถพิมพ์ภาพหรือเอกสารขนาดใหญ่เช่นขนาด A4 หรือ B5 ได้ ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการพิมพ์เอกสารขนาดดังกล่าวล่ะก็ คงจะต้องมีเครื่องปริ้นแบบธรรมดาไว้ใช้คู่กันอีกเครื่องค่ะ
เครื่องปริ้นมัลติฟังก์ชันเป็นเครื่องปริ้นที่สามารถใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น แฟกซ์ ถ่ายเอกสาร สแกนได้ในเครื่องเดียวค่ะ เนื่องจากสามารถใช้งานได้หลากหลาย จึงเป็นที่นิยมสำหรับใช้ในออฟฟิศและสำนักงาน นอกจากนี้บางรุ่นยังสามารถสั่งพิมพ์ข้อมูลหรือภาพถ่ายผ่านสมาร์ทโฟนได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์อีกด้วย
แม้จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเครื่องปริ้นประเภทอื่น ๆ แต่ก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับการติดตั้งเครื่องถ่ายเอกสารหรือเครื่องสแกนแยกต่างหากค่ะ นอกจากนี้ด้วยความที่มีเพียงเครื่องเดียว จึงช่วยประหยัดพลังงานและลดปัญหาเรื่องสายไฟพันกันยุ่งเหยิง แค่ใช้งานสแกน ถ่ายเอกสารหรือแฟกซ์เพียงอย่างเดียวเป็นประจำก็คุ้มค่าแล้ว แถมบางรุ่นยังสามารถแปลงหนังสือหรือเอกสารต่าง ๆ เป็นไฟล์ PDF ได้อย่างง่ายดายด้วยการสแกน ดังนั้นจึงสะดวกสำหรับคนที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลเป็นอย่างยิ่งค่ะ
เนื่องจากตัวเครื่องปริ้นเองมีราคาถูกลงมากทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่าย จึงอาจทำให้หลายคนลืมนึกถึงค่าใช้จ่ายของตลับหมึกสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ของเครื่องปริ้น จากนี้ไปเราจะมาแนะนำรายละเอียดค่าใช้จ่ายของตลับหมึกสำหรับเครื่องปริ้นกันค่ะ
สำหรับตลับหมึกแบบรวมสีจะมี 3 หรือ 4 สีในตลับเดียวกัน โดยในเครื่องปริ้น 1 เครื่องจะใส่ตลับหมึกได้ 2 ตลับคือ ตลับสีดำและตลับสี แล้วด้วยความที่ตลับหมึกมีจำนวนน้อยจึงเซ็ตเข้ากับเครื่องได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ข้อเสียคือ หากสีใดสีหนึ่งในตลับหมด จะต้องเปลี่ยนหมึกทั้งตลับ ทั้ง ๆ ที่ยังมีสีอื่นหลงเหลืออยู่ ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าเครื่องปริ้นจะราคาถูกสักเท่าไหร่ แต่ค่าตลับหมึกถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียวค่ะ
สำหรับคนที่ต้องการพิมพ์เป็นจำนวนมาก โดยที่ต้องใช้สีใดสีหนึ่งเป็นหลักเราก็ไม่แนะนำให้ใช้หมึกแบบตลับค่ะ แต่สำหรับคนที่ใช้พิมพ์งานทั่วไปหรือแม้แต่คนที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการเปลี่ยนตลับหมึก ก็อย่าลืมเก็บตลับหมึกประเภทนี้ไว้พิจารณานะคะ
ตลับหมึกแบบแยกสีนั้นต่างกับตลับหมึกแบบรวมสีตรงที่แต่ละตลับย่อยจะมีหมึกเพียงสีเดียว หากสีใดหมดก็เพียงแค่เปลี่ยนเฉพาะตลับหมึกสีนั้น ๆ ดังนั้น หากเทียบกับตลับหมึกแบบรวมสีแล้ว ตลับหมึกชนิดนี้ใช้งานได้คุ้มค่ากว่าแน่นอนค่ะ สำหรับคนที่เน้นพิมพ์โดยใช้สีใดสีหนึ่งเป็นหลักหรือเน้นการพิมพ์ปริมาณมาก ๆ เราก็อยากแนะนำให้ใช้ตลับหมึกชนิดนี้ แต่ก็มีข้อควรระวังคือการเปลี่ยนตลับอาจจะยุ่งยากกว่าและมีโอกาสใส่สีผิดได้หากไม่ระวังค่ะ
สำหรับหมึกที่ใช้กับเครื่องปริ้นแบบเลเซอร์เราเรียกกันว่า โทนเนอร์ ค่ะ เมื่อเทียบกับตลับหมึกทั้งสองประเภทที่เราได้แนะนำไปแล้ว เรียกได้ว่ามีราคาสูงกว่าพอสมควรเลย แต่จริง ๆ แล้ว โทนเนอร์นี้มีปริมาณหมึกที่มากกว่ามากและยังสามารถใช้งานได้นานกว่า ดังนั้น หากเทียบในแง่ของค่าใช้จ่ายแล้วก็ยังถือว่าคุ้มอยู่ดี สำหรับคนที่เน้นพิมพ์บ่อย ๆ หรือประมาณมาก ๆ ให้เลือกใช้เครื่องปริ้นเลเซอร์ที่ใช้หมึกโทนเนอร์ก็ดีค่ะ
อย่างไรก็ตามนอกเหนือจากโทนเนอร์แล้ว เพื่อน ๆ จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนลูกดรัมที่เป็นอะไหล่ของตัวเครื่องปริ้นเลเซอร์ด้วย เฉลี่ยแล้วต้องเปลี่ยนดรัม 1 ครั้งต่อการเปลี่ยนโทนเนอร์ 3 ครั้งโดยประมาณ ดังนั้นเวลาคำนวณค่าใช้จ่ายสำหรับเครื่องปริ้นเลเซอร์ อย่าลืมคำนึงถึงค่าเปลี่ยนอะไหล่ด้วยนะคะ
หมึกของเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ หมึกย้อม หมึกพิมพ์เม็ดสี และหมึกไฮบริดที่รวมเอาหมึกย้อมและหมึกพิมพ์เม็ดสีเข้าไว้ด้วยกัน ถึงแม้จะเป็นผู้ผลิตเจ้าเดียวกัน แต่เครื่องปริ้นแต่ละรุ่นก็อาจใช้หมึกคนละประเภทกันได้ ดังนั้นเพื่อน ๆ ลองตรวจสอบให้ดีก่อนใช้งานนะคะ
หมึกย้อม (Dye – Based Ink) เป็นหมึกที่สามารถละลายน้ำได้ ทำให้ตอนที่พิมพ์ออกมาใหม่ ๆ กระดาษจะมีความชุ่มน้ำหมึก งานที่พิมพ์ออกมามีสีสันสดใสและมันวาวเหมาะสำหรับการใช้พิมพ์รูปค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่เน้นการพิมพ์รูปหรือภาพถ่ายเป็นหลักเราแนะนำให้เลือกรุ่นที่ใช้หมึกย้อมค่ะ
ข้อเสียก็คือเมื่อเทียบกับหมึกพิมพ์เม็ดสีแล้ว หมึกย้อมจะใช้เวลานานกว่าหมึกจะแห้งสนิท นอกจากนั้นยังสามารถเปื้อนได้ง่ายหากโดนน้ำ ต้องระวังทั้งระหว่างพิมพ์และหลังพิมพ์ให้ดีค่ะ
หมึกพิมพ์เม็ดสี (Pigment – Based Ink) จะมีลักษณะเป็นเม็ดสีอนุภาคใหญ่ ไม่ซึมลงไปในกระดาษแต่กลับจับตัวแน่นอยู่บนพื้นผิวของกระดาษทำให้ตัวหนังสือมีความคมชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่นิยมใช้เครื่องปริ้นพิมพ์เอกสารต่าง ๆ ค่ะ
นอกจากนี้หมึกชนิดนี้ยังไม่ละลายน้ำแม้จะใช้ปากกาเน้นข้อความขีดทับลงไปบนตัวหนังสือก็ไม่เป็นปัญหาค่ะ อย่างไรก็ตามหมึกพิมพ์เม็ดสียังไม่สามารถดึงคุณภาพของสีที่พิมพ์ลงบนกระดาษได้ดีเท่าสีแบบย้อมจึงไม่เหมาะกับการพิมพ์ภาพค่ะ
สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองใช้งานการพิมพ์เอกสารหรือรูปภาพมากกว่ากัน จะให้เลือกใช้หมึกย้อมหรือหมึกพิมพ์เม็ดสีดี ก็คงเลือกไม่ถูกใช่มั้ยล่ะคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นให้เพื่อน ๆ เลือกเครื่องปริ้นที่เป็นระบบหมึกไฮบริดก็ได้ค่ะ โดยตลับหมึกสีจะเป็นหมึกย้อม ซึ่งเหมาะสำหรับใช้พิมพ์ภาพสี ในขณะที่ตลับหมึกสีดำจะเป็นหมึกพิมพ์เม็ดสี ซึ่งเหมาะกับการใช้พิมพ์เอกสาร เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้พิมพ์ทั้งรูปภาพและเอกสารได้ทั้งคู่ในเครื่องเดียวแล้วค่ะ หรือแม้แต่กรณีที่ต้องการพิมพ์เอกสารที่มีทั้งข้อความและรูปภาพในหน้าเดียวกัน เราก็แนะนำให้ใช้เครื่องปริ้นที่ใช้ได้กับหมึกไฮบริดค่ะ
เราสามารถสั่งพิมพ์ด้วยสมาร์ทโฟนได้โดยใช้เครื่องปริ้น Wi-Fi โดยที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อค่ะ และเนื่องจากไม่ต้องใช้สายใด ๆ ทั้งสิ้นจึงใช้งานสะดวกแค่ต่อสายไฟได้เป็นพอ ผู้ใช้สามารถสั่งพิมพ์ได้จากที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้หากสัญญาณเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ค่อยดีก็ยังสามารถเลือกเชื่อมต่อโดยใช้ USB ได้เหมือนกันค่ะ
เครื่องปริ้นนอกจากการพิมพ์เอกสารซึ่งเป็นฟังก์ชันพื้นฐานแล้วยังมีฟังก์ชันให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการปริ้น 2 หน้า, การปริ้นโดยตรงจาก SD การ์ด, การปริ้นหน้าปก CD หรือฟังก์ชันการป้อนกระดาษแบบคว่ำ ป้อนแบบหงาย ต้องใช้มือป้อนแบบแมนนวลหรือเครื่องป้อนให้อัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า ADF ( Auto Document Feeder ) ให้ลองเลือกตามลักษณะการใช้งานของเพื่อน ๆ ดูนะคะ
เครื่องแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันไป ในหัวข้อนี้เราขอแนะนำจุดเด่นของยี่ห้อที่เห็นกันบ่อย ๆ ให้ฟังคร่าว ๆ เพื่อให้พิจารณาเลือกซื้อได้ง่ายขึ้นนะคะ
รุ่นที่มีชื่อเสียงของ EPSON ได้แก่ Colorio ที่สามารถพิมพ์รูปภาพได้สวยสดงดงามโดยการใช้หมึก 6 หรือ 8 สี และปัจจุบันก็มีรุ่นที่เป็นที่นิยมมากคือรุ่น Eco Tank ที่ไม่ต้องเปลี่ยนตลับหมึกจึงช่วยให้ประหยัดงบค่าหมึกไปได้ เป็นรุ่นที่แนะนำโดยเฉพาะสำหรับคนที่ต้องการปริ้นงานจำนวนมากค่ะ
PIXUS ถือเป็นไลน์ที่มีชื่อเสียงมากของ CANON โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้หมึกแบบไฮบริดเพราะสามารถพิมพ์รูปภาพ รูปถ่ายหรือแม้กระทั่งตัวอักษรได้สวยงามเหมาะสำหรับงานทุกประเภท
Brother เป็นยี่ห้อที่มีจุดเด่นในเรื่องค่าใช้จ่ายที่ประหยัด เครื่องแบบอิงค์เจ็ทสามารถพิมพ์ได้สวยงามทั้งภาพและตัวอักษร หมึกที่ใช้จะมีทั้งแบบหมึกย้อมและหมึกพิมพ์เม็ดสีร่วมกัน ถ้าเป็นเครื่องเลเซอร์จะมีจุดเด่นที่ขนาดเล็กกะทัดรัด หากกำลังหาเครื่องเลเซอร์ที่มีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ไม่แพงไว้ใช้ในบ้าน Brother ก็เป็นยี่ห้อที่ควรพิจารณาค่ะ
นอกจากเครื่องปริ้นธรรมดาที่ใช้ในบ้านหรือสำนักงาน สมัยนี้เครื่องปริ้นก็ถูกพัฒนาจนมาเป็น 'เครื่องปริ้นพกพา' ที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ปริ้นเอกสารได้แบบทันใจเลยล่ะค่ะ ใครที่อยากมีเครื่องปริ้นพกพาซักเครื่องแต่ไม่รู้ว่าควรซื้อรุ่นไหนดี ลองเข้าไปดูวิธีการเลือกและผลิตภัณฑ์ได้ที่บทความข้างล่างนี้เลยค่ะ
จากนี้ไป เราจะมาดู 10 อันดับ เครื่องปริ้นยอดนิยมไปพร้อม ๆ กันค่ะ แน่นอนว่ารุ่นที่เราเลือกมาแนะนำล้วนแล้วแต่เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม ประเภทเครื่องปริ้นที่เหมาะกับเพื่อน ๆ จะเป็นรุ่นไหน ลองหากันดูนะคะ
ใครที่อยากปริ้นรูปที่ถ่ายเก็บไว้ในมือถือต้องไม่พลาดเครื่องปริ้นรูปถ่ายจาก Fujifilm ตัวนี้ค่ะ ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัดและดีไซน์ที่เรียบ ๆ แต่ทันสมัย สามารถชาร์จแบตแล้วพกพาไปไหน ๆ กับคุณได้เลย โดยเครื่องจะพิมพ์ภาพได้ 160 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
การเชื่อมต่อสามารถทำได้ง่าย ๆ และรวดเร็วผ่าน Wi-Fi แล้วถ้าใครมีกล้องถ่ายรูปของ Fujifilm ก็สามารถเชื่อมต่อกับกล้องโดยตรงได้ด้วย แต่ข้อเสียก็คือต้องใช้ฟิล์มเฉพาะรุ่นของ Fujifilm เท่านั้นในการพิมพ์ภาพซึ่งราคาค่อนข้างสูงค่ะ
เครื่องปริ้นเลเซอร์ขาว-ดำ สามารถพิมพ์ได้มากถึง 18 แผ่นต่อนาที อาจจะไม่ได้เร็วมากนัก แต่รับรองว่าความละเอียดในการพิมพ์ 2400 x 600 dpi จะทำให้ได้เอกสารที่คมชัดแน่นอนค่ะ และด้วยเทคโนโลยี On-Demand Fixing ที่ช่วยให้พิมพ์งานได้รวดเร็วภายใน 7.8 วินาทีโดยไม่ต้องวอร์มเครื่อง ใช้หมึกแบบโทนเนอร์ Cartridge 325 ที่ประหยัดกว่าหมึกตลับชนิดอื่นแถมยังเปลี่ยนได้ง่ายอีกด้วย
นอกจากนี้ รุ่นนี้ยังมีฟังก์ชัน Sleep mode และ Auto Shutdown ช่วยในการประหยัดพลังงาน แต่ก็มีข้อเสียคือตัวเครื่องมีน้ำหนักถึง 5 กิโลกรัมจึงอาจเคลื่อนย้ายได้ยาก เหมาะสำหรับคนที่เน้นพิมพ์งานเอกสารทั่วไปจำนวนมากหรือเน้นการใช้งานในโฮมออฟฟิศหรือสำนักงานเล็ก ๆ ค่ะ
เครื่องพิมพ์มัลติฟังชันเลเซอร์ขาว-ดำ แบบ 4 in 1 ประกอบไปด้วยฟังก์ชันการปริ้น สแกน ถ่ายเอกสารและแฟกซ์ เรียกได้ว่าสามารถใช้งานได้ครบถ้วนในเครื่องเดียว นอกจากนั้นแล้วรุ่นนี้ยังมีจุดเด่นคือ พิมพ์เอกสารได้เร็วถึง 30 แผ่นต่อนาทีถือว่ารวดเร็วไม่แพ้เครื่องปริ้นตัวใหญ่ ๆ ในสำนักงานเลยค่ะ
ฟังก์ชันการถ่ายเอกสารสามารถย่อ-ขยายได้ และแม้จะพิมพ์ออกมาได้แค่สีขาว-ดำแต่ฟังก์ชันสแกนมีแบบสีด้วย อีกทั้งขณะที่เครื่องปริ้นกำลังพิมพ์หรือสแกนงานก็สามารถรับส่งแฟกซ์ได้ในขณะเดียวกัน เหมาะสุด ๆ สำหรับออฟฟิศที่มีเนื้อที่วางของไม่เยอะหรือต้องการประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งค่ะ
เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทที่มีระบบแท็งก์หมึก 6 สี โดยหมึกมีลักษณะแห้งเร็วแต่ไม่กันน้ำ สามารถพิมพ์ภาพไร้ขอบได้ใหญ่สุดถึงขนาด A3+ ตัวหัวพิมพ์ Micro Piezo TM จาก EPSON ช่วยให้พิมพ์งานได้อย่างทนทาน ให้ความละเอียดสูงถึง 5,760 dpi เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการพิมพ์ภาพถ่ายหรืองานกราฟฟิกที่ต้องการรายละเอียดและสีที่คมชัด
แม้ว่าตัวเครื่องจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ตัวหมึกกลับไม่ได้สูงตามอย่างที่คิด โดยหมึก 1 ชุด สามารถใช้พิมพ์ภาพถ่ายขนาด 4R ได้ถึง 1,500 ภาพ เรียกได้ว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน
จากที่เคยคิดว่าเครื่องเลเซอร์ต้องมีราคาแพงแต่สำหรับรุ่นนี้ของ Brother เพื่อน ๆ ต้องตกใจในราคาที่เป็นกันเอง เหมาะมาก ๆ กับใครที่เปิดกิจการใหม่ ๆ ต้องออกเอกสารขาว-ดำ อย่างเช่นใบกำกับภาษีบ่อย ๆ และไม่จำเป็นต้องพิมพ์เอกสารที่เป็นสี
เครื่องพิมพ์เครื่องนี้เป็นเครื่องเลเซอร์ขนาดเล็กที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 20 แผ่น/นาที ถ้าเป็นกระดาษ A4 และสูงสุด 21 แผ่น / นาทีถ้าเป็นขนาดจดหมาย ซึ่งถือว่ารวดเร็วทันใจสำหรับการใช้งานทั่วไป เหมาะกับนักเรียน-นักศึกษาที่ต้องปริ้นรายงานหรือวิทยานิพนธ์อย่างยิ่ง
เครื่องปริ้นสีสันสะดุดตาน่าใช้จาก HP ตัวนี้เป็นรุ่นที่มีคุณภาพสูงแต่ราคาประหยัดแบบมัลติฟังก์ชันหรือ All-in-One สามารถใช้เป็นทั้งปริ้น สแกน และก๊อปปี้ได้ในเครื่องเดียว เหมาะกับการใช้ที่บ้านหรือจะใช้ในโฮมออฟฟิศก็ได้
จุดเด่นที่สำคัญคือเป็นเครื่องที่สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สาย Auto Wireless Connect รองรับทั้งอุปกรณ์ Apple, Android, Windows จึงไม่ต้องเสียเวลาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ให้ยุ่งยาก หมดปัญหาเรื่องสายไฟระเกะระกะ อีกทั้งรองรับผู้ใช้พร้อมกันได้ทีเดียวถึง 3 คน ความเร็วในการพิมพ์อยู่ที่ 8 แผ่น/นาทีสำหรับขาว-ดำ และ 5 แผ่น/นาทีสำหรับพิมพ์สี ถือว่าคุ้มค่ากับราคาเลยค่ะ
เครื่องปริ้นมัลติฟังชันอิงค์เจ็ท 3 in 1 สามารถพิมพ์เอกสารขาว-ดำได้มากถึง 27 แผ่นต่อนาทีด้วยการใช้ Fast Mode พร้อมความคมชัดในการพิมพ์รูปถึง 1,200 x 6,000 dpi รองรับการพิมพ์ภาพแบบไร้ขอบ มาพร้อมกับระบบที่หลาย ๆ คนชื่นชอบอย่างระบบบำรุงรักษาหัวพิมพ์อัตโนมัติ ติดตั้งและใช้งานได้ง่าย
เครื่องสามารถเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi ช่วยให้สั่งการผ่านมือถือง่ายขึ้น ที่สำคัญรุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Ink Tank ที่ช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าหมึกและยังมาพร้อมกับแผงใส่หมึกพิมพ์ที่สามารถมองเห็นได้จากด้านหน้า จึงรู้ได้ทันทีว่าระดับหมึกเหลือเยอะแค่ไหน และด้วยความที่เป็นหมึกแบบแยกสี จึงไม่ต้องทิ้งทั้งตลับหากสีใดสีหนึ่งหมด
SELPHY CP1300 เป็นเครื่องปริ้นสำหรับรูปถ่ายมาพร้อมกับจอ LCD ขนาดใหญ่ 3.2 นิ้ว สามารถปรับองศาความเอียงได้ มีระบบ Wi-Fi ดังนั้นจะสั่งปริ้นจากกล้องถ่ายรูป iPad หรือแม้แต่สมาร์ทโฟนโดยตรงก็ไม่มีปัญหาค่ะ สามารถพิมพ์ขนาดใหญ่สุดได้ถึง 3.94 x 5.83 นิ้ว โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Dye Sublimation ทำให้ภาพที่ได้ออกมาสามารถกันฝุ่นและละอองน้ำได้
นอกจากนี้ยังสามารถดึงภาพจากสมาร์ทดีไวซ์ได้มากสูงสุดถึง 8 เครื่อง เพื่อสร้างเป็นภาพคอลลาจในแผ่นเดียว ตัวเครื่องมีดีไซน์น่ารัก ขนาดกำลังดี เหมาะสุด ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป และยังมาพร้อมแบตเตอรี่สำรองทำให้พกออกไปไหนมาไหนได้สะดวกอีกด้วย
เครื่องปริ้นมัลติฟังชันอิงค์เจ็ท แบบ 4 in 1 ปริ้น สแกน ถ่ายเอกสารและแฟกซ์ได้ในเครื่องเดียว พิมพ์เอกสาร 2 ด้านได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วเป็นการประหยัดพลังงานและเวลาไปได้ในตัว นอกจากนี้ยังผ่านการทดสอบว่าสามารถพิมพ์เอกสารได้โดยใช้ต้นทุนต่อแผ่นน้อยกว่าเครื่องปริ้นเลเซอร์ถึง 50% เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพิมพ์เอกสารเป็นจำนวนมากค่ะ
หมึกที่ใช้ทนทานต่อน้ำและไม่เป็นรอยจางได้ง่าย หน้าจอ LCD แบบสัมผัสมีขนาดใหญ่ถึง 4.3 นิ้ว ใช้งานสะดวก รองรับระบบ Mobile printing สามารถพิมพ์ได้มากสุดถึง 30,000 หน้าต่อเดือน จะเห็นได้ว่าเหมาะสำหรับทั้งใช้งานในบ้านและออฟฟิศค่ะ
EPSON เป็นเครื่องปริ้นชั้นนำที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่น เรื่องความทันสมัยจึงไม่ต้องพูดถึงค่ะอย่างรุ่นนี้ก็มีฟังก์ชันล้ำสมัยสารพัดไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ Wi-Fi, การสั่งพิมพ์ผ่าน Cloud Storage ที่ตอนนี้ใช้กันแพร่หลาย, การสั่งพิมพ์ผ่าน Remote Print Driver ช่วยให้คุณสั่งพิมพ์งานได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลก !
เรื่องการประหยัดค่าหมึกพิมพ์ด้วย Ink Tank ที่ EPSON เป็นผู้ริเริ่มก็ก้าวไปอีกขั้นด้วยการออกแบบขวดหมึกที่ช่วยป้องกันการเติมสีผิดและป้องกันสีหกได้ เรียกว่าใส่ใจทุกรายละเอียดสมกับเป็นเครื่องปริ้นยอดนิยมจริง ๆ ค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่เราได้แนะนำเครื่องปริ้นยอดนิยมให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันไปแล้ว หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังหาเครื่องปริ้นอยู่ ก็ลองเลือกจากประเภทของเครื่องปริ้นรวมไปถึงประเภทของหมึกที่เหมาะกับการใช้งานที่เพื่อน ๆ ต้องการดูนะคะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ตัดสินใจเลือกเครื่องปริ้นได้ง่ายขึ้นแล้วค่ะ หรือจะลองดูจากอันดับเครื่องปริ้นยอดนิยมที่เราแนะนำไปก็ยังได้ค่ะ