“เครื่องดูดฝุ่นในรถ” ถือเป็นไอเทมที่บรรดาคนรักรถทั้งหลายขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากทำให้รถสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกใด ๆ แล้ว ยังช่วยลดการเกิดของเชื้อราและกลิ่นเหม็นอับต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบัน ผู้ผลิตหลายรายก็ได้ออกแบบและพัฒนาเครื่องดูดฝุ่นในรถให้มีหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแบบไร้สาย แบบที่มีไฟ LED ในตัว หรือแบบที่มีพลังการดูดสูงจนสามารถนำไปใช้ในบ้านเรือน/อาคารได้ ได้ยินอย่างนี้แล้ว ผู้ใช้หลายคนอาจเลิกนำรถไปเข้าอู่ แล้วหันมาซื้อเครื่องดูดฝุ่นในรถสักเครื่องไว้ใช้เป็นของตัวเองเลยใช่ไหมล่ะคะ
วันนี้ทีมงานจึงตัดสินใจมานำเสนอวิธีการเลือกเครื่องดูดฝุ่นสำหรับใช้งานในรถ จุดสำคัญในการดูดฝุ่น พร้อมทั้งนำ 10 อันดับ เครื่องดูดฝุ่นในรถที่ขายดี และยังที่สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามเว็บไซต์ออนไลน์มาให้ผู้ใช้รถได้รับชมกันค่ะ จะเป็นอย่างไรนั้น เลื่อนลงไปอ่านกันต่อได้เลย !
เครื่องดูดฝุ่นในรถที่หลายคนมองว่าก็น่าใช้ดีแต่ใช้เครื่องดูดฝุ่นในบ้านแทนก็ได้หรือเปล่า แต่ถ้าได้ลองซื้อมาใช้จริง ๆ รับรองว่าจะกลับไปใช้เครื่องดูดฝุ่นบ้านดูดฝุ่นในรถไม่ได้แน่นอนค่ะ เพราะความสะดวกแสนสะดวกด้วยขนาดที่กะทัดรัดใช้ในรถได้อย่างไม่ติดขัด มีแรงดูดที่เพียงพอและช่องดูดฝุ่นที่มีขนาดเล็กเข้าถึงทุกซอกมุมแม้ส่วนที่ทำความสะอาดได้ยากอย่างช่องใส่ของตรงประตูรถหรือรอยต่อระหว่างเบาะนั่ง
หลังใช้งานเสร็จก็แค่เก็บใส่ไว้ท้ายรถ จะหยิบมาทำความสะอาดเมื่อไหร่ก็ได้ทุกเมื่อที่ต้องการไม่ต้องลากเครื่องดูดฝุ่นออกมาใช้และไม่ต้องคอยเข้าศูนย์เพื่อทำความสะอาด เวลาต้องให้ใครขึ้นรถก็ไม่ต้องอายอีกต่อไป ราคาต่อเครื่องก็ไม่แพงเลยซื้อไว้ใช้เพื่อรักษาความสะอาดให้รถยนต์คู่ใจของคุณกันดีกว่าค่ะ
เพื่อความสะอาดในรถของคุณ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า ควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นอย่างไรให้เหมาะกับรถของตนเอง
สำหรับการเลือกซื้อเครื่องดูดฝุ่นนั้น อะไรจะสำคัญไปกว่าพลังในการดูดใช่ไหมล่ะคะ ถ้าอยากจะขจัดฝุ่น ดินทราย เศษขยะที่ซ่อนอยู่ให้เกลี้ยงจากเบาะนั่ง พรม นี่เป็นหัวข้อแรกเลยที่ต้องพิจารณาให้ดีค่ะ
ความแรงของเครื่องดูดฝุ่นจะตรวจสอบได้จากขนาดแรงดันและปริมาณลมที่เครื่องสูบเข้าไปในเครื่อง ซึ่งค่าที่บ่งบอกแรงดูดของเครื่องดูดฝุ่น คือ ค่าวัตต์ (Watt หรือ W) โดยกำลังของเครื่องดูดฝุ่นมีตั้งแต่ 10W ไปจนถึง 680W ขึ้นไป แต่แรงดูดที่มากก็ไม่ได้หมายความว่าจะยิ่งดูดฝุ่นได้มากขึ้น ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น อย่างเช่น ตัวพรมหรือตัวแปรงด้วย และอีกประการที่ต้องทำความเข้าใจเอาไว้ก็คือ หากค่าวัตต์สูงก็หมายความว่าจะกินไฟเยอะ แบตเตอรี่อาจจะใช้ได้ไม่นานค่ะ
อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักในบ้านเรา แต่ในบางประเทศเครื่องดูดฝุ่นจะมีค่า Dust Pick Up Rate ซึ่งเป็นค่าเปอร์เซ็นต์เอาไว้ดูความสามารถในการดูดฝุ่นขึ้นมาจากพื้นผิวต่าง ๆ ถ้าพิจารณาเลือกซื้อสินค้าจากบางประเทศที่มีการระบุ Dust Pick Up Rate ก็ให้เลือกที่ค่าตัวเลขสูงใกล้เคียง 100% นะคะ
เครื่องดูดฝุ่นในปัจจุบันมีทั้งแบบมีสายและแบบไร้สาย มาดูกันว่าแหล่งจ่ายไฟประเภทไหนมีข้อดีอย่างไรกันค่ะ
หากต้องการทำความสะอาดอย่างพิถีพิถันแนะนำให้เลือกเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย เพราะไม่ต้องกลัวว่าแบตฯจะหมดและยังสามารถชาร์จกับช่องจุดบุหรี่ในรถได้อีกด้วย เอื้อต่อการทำความสะอาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่หากคุณใช้ดูดฝุ่นในรถที่ขนาดใหญ่ล่ะก็ ต้องอย่าลืมตรวจเช็กด้วยว่าสายไฟยาวพอที่จะใช้ทำความสะอาดไปถึงเบาะหลังหรือไม่ ถ้าจะให้ดีสายไฟต้องมีความยาวมากกว่า 3 เมตร ขึ้นไปค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นในรถยนต์แบบไร้สายเหมาะกับผู้ที่ดูแลความสะอาดเป็นประจำ สามารถทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ง่าย ๆ เมื่อต้องการ สามารถโยกย้ายใช้งานได้อย่างสะดวกในรถแคบ ๆ น้ำหนักและราคาก็เบา ๆ หากใช้คู่กับเครื่องแบบมีสายก็จะทำความสะอาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่มีข้อเสีย คือ แบตเตอรี่อาจจะทำงานได้แค่ 15 - 25 นาทีแต่กว่าจะชาร์จเต็มอาจจะต้องใช้เวลา 6 - 8 ชั่วโมง อีกทั้งต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่อีกด้วย ดังนั้น ถ้าจะเลือกใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายอย่าลืมเช็กว่าแบตเตอรี่สามารถเปลี่ยนได้หรือเปล่าด้วย
เพื่อให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น เครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ในรถควรจะมีน้ำหนักที่แม้แต่ผู้หญิงก็สามารถถือด้วยมือเดียวได้ หรือมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 800 - 1,000 กรัม จะได้ใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่พลิก ยกพรม หรือหยิบสิ่งกีดขวางออกได้ขณะทำความสะอาดอย่างสะดวก
ความดังของเสียงการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 60 - 70dB ถ้าอยู่ที่ระดับ 60dB ก็จะพอ ๆ กับเสียงการทำงานของเครื่องซักผ้า ซึ่งไม่หนวกหูเกินไปที่จะใช้ในบ้านหรือคอนโดฯ ถ้าผู้ผลิตไม่มีการระบุอาจจะอ่านจากรีวิวของผู้ใช้ดูก็ได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นในเวลาที่อาจจะรบกวนคนรอบข้างค่ะ
รูปแบบในการเก็บฝุ่นจะมีทั้งแบบถุงกระดาษ, แบบไซโคลน, แบบฟิลเตอร์ ซึ่งเราควรเลือกใช้โดยพิจารณาทั้งความยากง่ายในการใช้และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น
รูปแบบการเก็บฝุ่นแบบถุงกระดาษเป็นชนิดที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน ฝุ่นที่ดูดเข้ามาก็จะรวมอยู่ในถุงกระดาษ เมื่อฝุ่นเต็มก็นำถุงไปทิ้งโดยเราไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นผงโดยตรง มีจุดด้อยตรงที่เมื่อฝุ่นในถุงเริ่มเต็มจะทำให้แรงดูดฝุ่นของเครื่องลดลงจำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ ค่ะ
การเก็บฝุ่นแบบไซโคลนเหมาะกับคนที่ต้องการกำจัดทั้งฝุ่นและกลิ่นที่อยู่ในรถ ด้วยการทำงานแบบใช้แรงเหวี่ยงจึงสามารถแยกฝุ่นและกลิ่นได้ ตัวกระปุกใส่ฝุ่นมีดีไซน์ให้เราทิ้งฝุ่นได้ง่ายโดยไม่ต้องสัมผัส และแม้จะมีฝุ่นสะสมอยู่มากก็จะไม่ทำให้แรงดูดของเครื่องลดลง มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่เวลาทิ้งฝุ่น ๆ อาจจะฟุ้งได้ง่ายต้องระวัง อย่าเปลี่ยนถ่ายฝุ่นลงถุงขยะขณะอยู่ในรถนะคะ
เพื่อประโยชน์ในการใข้ที่มากขึ้น เราควรต้องเลือกฟังก์ชันอะไรอีกบ้าง ไปดูกันค่ะ !
อุปกรณ์เสริมก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยประกอบการตัดสินใจในการเลือกซื้อ หากต้องการทำความสะอาดทุกซอกหลืบของรถ ขอแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีอุปกรณ์เสริมหลากหลายให้ใช้ โดยตัวหลัก ๆ ที่ต้องมีก็คือ ท่ออ่อนและหัวแปรงเสริมค่ะ
ท่ออ่อนจะช่วยให้เราทำความสะอาดบริเวณช่องเก็บของต่าง ๆ เช่น ช่องข้างประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันหัวแปรงก็จะช่วยกำจัดเศษผงต่าง ๆ ที่ติดแน่นตามพื้นพรม หากคิดว่ามีอุปกรณ์เสริมหลายตัวแล้วอาจจะไม่ได้ใช้อยู่ดี อย่างน้อยขอให้เลือกรุ่นที่มีอุปกรณ์เสริมทั้งสองอย่างนี้ก็สบายใจได้ในระดับหนึ่งแล้วค่ะ
หลายจุดในรถที่จะมืดมองไม่ค่อยเห็นว่ามีฝุ่นสะสมอยู่ อย่างเช่น บริเวณใต้เบาะที่นั่ง หากใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีไฟ LED ช่วยส่องบริเวณที่ดูดฝุ่นอยู่ก็จะช่วยให้มองเห็นฝุ่นผงได้ชัดเจนทำความสะอาดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากเลือกเครื่องดูดฝุ่นที่สามารถใช้กับพื้นเปียกได้ด้วยก็ยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่ แม้พรมที่เปียกเปื้อนโคลนทราย เราก็สามารถทำความสะอาดได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้แห้งก่อน ขอแนะนำสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กเพราะอาจทำน้ำหกบนเบาะหรือพื้นรถบ่อย ๆ ค่ะ
เพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจมากขึ้น ต่อไปเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าเครื่องดูดฝุ่นรุ่นไหนยี่ห้อไหนกำลังเป็นที่นิยมกันบ้าง
เครื่องดูดฝุ่นแบบจ่ายไฟจากช่องจุดบุหรี่ราคาคุ้มค่า มีสายไฟยาวถึง 5 เมตร จึงเหมาะกับทั้งรถคันใหญ่และคันเล็ก มาพร้อมอุปกรณ์เสริมมากมาย ขนาดกระชับมือ นอกจากนี้ ยังมีไฟ LED ด้านบนตัวเครื่อง เพิ่มความสะดวกในการดูดฝุ่นในที่มืด มีระบบตัดไฟอัตโนมัติจึงปลอดภัยแม้ใช้เป็นเวลานาน ๆ เหมาะสำหรับพกพาไว้ในรถ จะใช้ทำความสะอาดในวันว่าง ๆ หรือจะใช้ยามฉุกเฉินก็ได้ค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายดีไซน์สวยรุ่นนี้มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมถึง 5 ชนิด เข้าถึงทุกซอกทุกมุมภายในรถ ใช้ดูดได้ทั้งของแห้งและของเหลว ด้ามจับแข็งแรงใช้งานถนัด เหมาะสำหรับรถรุ่นที่มีรายละเอียดและช่องเก็บของเล็ก ๆ จำนวนมาก ขนาดกะทัดรัดเมื่อเทียบกับเครื่องดูดฝุ่นหลาย ๆ ยี่ห้อ อย่างไรก็ดี เครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้มีเสียงในการทำงานค่อนข้างดัง ทั้งยังใช้เวลา 3 - 4 ชม. ถึงจะชาร์จแบตเตอรี่เข้าได้เต็ม จึงแนะนำให้พกไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เช่น เวลาทำเศษอาหารตกหล่นระหว่างเดินทางแล้วต้องการเก็บกวาดทันที
เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายจากประเทศจีน ที่ดูราคาและคุณสมบัติแล้วน่าซื้อมากอีกตัวหนึ่ง สามารถดูดฝุ่นทั้งเปียกและแห้งได้ ใช้ตัวกรอง HEPA ในการทำความสะอาดฝุ่นผง สามารถถอดทำความสะอาดด้วยการล้างน้ำได้ มีแรงดูด 120W ที่เพียงพอสำหรับการดูดทั้งเศษขนมไปจนกระทั่งขนสัตว์ แบตเตอรี่ชาร์จได้เร็วด้วย USB ใช้เวลาแค่ 3 - 4 ชั่วโมงก็จะชาร์จเต็มและจะใช้งานได้ประมาณ 30 นาที มีอุปกรณ์เสริมให้หลายชนิดเช่นหัวแปรงและท่ออ่อนเพื่อการทำความสะอาดทุกส่วนของรถถือว่าคุ้มค่าสำหรับราคานี้ค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นแบบเสียบกับช่องจุดบุหรี่อีกรุ่นที่โดดเด่นด้วยรูปทรงไม่ซ้ำใคร จะถือใช้เหมือนเครื่องดูดฝุ่นสำหรับรถยนต์ทั่วไป หรือจะวางไว้กับที่แล้วถือเฉพาะท่ออ่อนก็ได้ ซึ่งท่ออ่อนของรุ่นนี้สามารถยืดได้ถึง 1.5 เมตร จึงทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง มีแรงดูดค่อนข้างดีเพียงพอกับการใช้งานที่ไม่หนักมาก ช่องเก็บฝุ่นมีลักษณะคล้ายวงล้อที่มีแกนอยู่ตรงกลางสามารถถอดไปทิ้งได้ ไม่ทำให้ฝุ่นเปื้อนเลอะเทอะ ทั้งยังออกแบบให้ล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นด้วย แต่ขนาดโดยรวมค่อนข้างใหญ่จึงไม่อาจเกะกะหากพกติดไว้ในรถ
เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายที่มีพลังดูดแรงจนหลาย ๆ คนถูกใจนำไปดูดฝุ่นในบ้านด้วย ใช้ได้ทั้งกับของแห้งและของเหลว ทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ด้ามจับถูกออกแบบมาให้จับได้ถนัดมือ มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่ครบถ้วนกับการใช้งานเช่น ท่ออ่อนและหัวแปรง รูระบายอากาศค่อนข้างใหญ่จึงหมดปัญหาเครื่องร้อนเกินเหตุขณะใช้งาน ขนาดไม่ใหญ่มาก เหมาะสำหรับรถทุกประเภท ทุกขนาด ใครที่กำลังมองหาเครื่องดูดฝุ่นที่ถอดไส้กรองและตัวกระบอกเก็บฝุ่นออกมาทำความสะอาดง่าย แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นแบบเสียบสายไฟบ้านเท่านั้น ไม่เหมาะกับคนที่ต้องการพกพาเครื่องดูดฝุ่นติดรถไปด้วย แต่ถ้าคุณเป็นสายทำความสะอาดจริงจัง เพื่อรถที่สะอาดเกลี้ยงเกลาทุกซอกทุกมุมก็ถือว่าเป็นรุ่นที่น่าลองค่ะ แผ่นกรองแบบ HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ได้ มี Cyclone Technology ช่วยให้ตัวแผ่นกรองไม่อุดตัน กำลังไฟจัดเต็ม ดูดเก็บผงฝุ่นทรายได้ราบคาบ ถังเก็บฝุ่นก็จุได้ถึง 0.5 ลิตร มาพร้อมอุปกรณ์เสริม 5 หัวแปรง 3 ข้อต่อ ทำความสะอาดได้ทุกจุดที่คุณต้องการค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายที่มองครั้งแรกอาจจะไม่ทราบว่าเป็นเครื่องด้วยฝุ่น ด้วยดีไซน์ทันสมัยเป็นไอเทมประดับรถได้เลยและขนาดที่เล็กกะทัดรัดสุด ๆ น้ำหนักเบาเพียง 0.56 kg รับรองว่าจะทำให้การดูดฝุ่นในรถเป็นเรื่องที่ไม่น่ารำคาญอีกต่อไป อุปกรณ์เสริม 2 ชิ้นเบสิกประกอบใช้งานง่าย คือ หัวดูดปากแคบแม้ตามซอกเล็กก็ทำความสะอาดได้และหัวแปรงดูดดินทรายที่เกาะติดได้ง่ายขึ้น มีไฟ LED ส่องสว่างในจุดที่ต้องใช้งาน ชาร์จโดยเสียบกับช่องจุดบุหรี่ จึงสามารถชาร์จได้ตลอดขณะเดินทาง
เครื่องดูดฝุ่นในรถแบบไร้สาย ขนาดกะทัดรัด แถมยังน้ำหนักเบา มีด้ามจับที่แข็งแรงจึงถือใช้งานได้สะดวก ตัวถังเก็บฝุ่นแบบใสบรรจุได้ 300 ml มองเห็นปริมาณฝุ่นได้ง่าย ทั้งถังเก็บฝุ่นและไส้กรองเมื่อใช้เสร็จสามารถถอดไปทำความสะอาดได้ด้วยการล้างน้ำ เพิ่มความมั่นใจในความสะอาด เหมาะกับการใช้งานทั่วไปสำหรับรถคันไม่ใหญ่มาก เน้นความรวดเร็ว เช่น ใช้ดูดฝุ่นเฉพาะหน้าก่อนรับส่งแขกขึ้นรถ หรือเมื่อทำอะไรหก อาจไม่เหมาะกับการทำความสะอาดซอกหลืบเล็ก ๆ
เครื่องดูดฝุ่นแบบเสียบกับช่องจุดบุหรี่ สายไฟยาว 4 เมตร เพียงพอกับรถยนต์ส่วนตัวขนาดทั่วไป ดูดสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยพลังไซโคลน น้ำหนักเบาเพียง 800 กรัม ถือได้สบายมือ กระบอกเก็บฝุ่นทำจาก Polycarbonate แข็งแรงทนทาน มาพร้อมกับท่ออ่อนและหัวแปรง นอกจากนี้ ยังต่างจากเครื่องดูดฝุ่นทั่วไปตรงที่ไส้กรองเป็นแบบสเตนเลส จึงล้างทำความสะอาดง่าย เหมาะกับการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน นอกจากจะใช้กับรถแล้ว ยังนำไปใช้ดูดฝุ่นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สกปรกมากในบ้านเรือนหรืออาคารได้อีกด้วยค่ะ
เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้สายใช้งานง่ายดีไซน์สวยหรู สามารถใช้ดูดฝุ่นได้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก เป็นที่นิยมในเรื่องแรงดูดอันทรงพลัง แต่แบตเตอรี่ใช้เวลาชาร์จไม่นาน เก็บฝุ่นด้วยระบบไซโคลน มีกล่องเก็บฝุ่นขนาดใหญ่และล้อเล็ก ๆ ด้านหน้าช่วยให้การดูดลื่นไหลขึ้น แนะนำสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ใช้กับรถยนต์ส่วนตัวทุกขนาด ไม่ว่าจะเลอะทรายจากไปทะเล เลอะเศษดินโคลนหลังจากปีนเขา หรือแม้กระทั่งเลอะเศษอาหารที่เด็ก ๆ ทำหก รุ่นนี้ก็เอาอยู่แน่นอนค่ะ
อุตส่าห์ใช้เวลาเลือกและซื้อเครื่องดูดฝุ่นดีๆมาทั้งที แต่หากใช้ไม่ถูกวิธี คราบและสิ่งสกปรกต่างๆภายในรถก็จะไม่หายไปแน่นอนค่ะ ดังนั้น เพื่อให้คุณทำความสะอาดภายในรถยนต์ให้หมดจด ไร้กลิ่นเหม็น เรามาดูเคล็ดลับง่าย ๆ ในการดูดฝุ่นกันดีกว่าค่ะ
บริเวณใต้เบาะที่นั่งและช่องระหว่างเบาะแต่ละเบาะจะเป็นจุดที่ฝุ่นสะสมอยู่เยอะแต่เรามักมองข้ามหรือละเลยในการทำความสะอาด เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมจนเป็นผลต่อสุขภาพเราควรทำความสะอาดส่วนนี้อย่างพิถีพิถันค่ะ ตรงระหว่างเบาะให้ใช้มือข้างหนึ่งดึงให้เกิดช่องว่างแล้วใช้เครื่องดูดเอาฝุ่นที่สะสมข้างในออกมา ส่วนบริเวณใต้เบาะให้ล้วงเข้า-ออกเพื่อดูดฝุ่นให้หมด ถ้านำเครื่องเข้าจากทางด้านหน้าเบาะไม่ได้ ก็ให้ลองใส่เครื่องดูดฝุ่นจากด้านหลังเบาะดูนะคะ
การทำความสะอาดบริเวณพื้นรถให้ถอดเอาพรมปูพื้นรถออกมาก่อนแล้วค่อยดูดฝุ่นบริเวณพื้นใต้พรม ส่วนบริเวณพรมหน้าเบรกกับคันเร่งที่มักจะมีดินและทรายทับถมอยู่ก็ให้ใช้หัวดูดปากแคบดูดออกให้หมด ก่อนจะใส่พรมกลับเข้าไปอย่าลืมสะบัดเอาสิ่งสกปรกก่อนด้วย หากมีผม ขนสัตว์หรือสิ่งสกปรกที่เอาออกยากติดอยู่บนพรม แนะนำให้ใช้อุปกรณ์เสริมที่เป็นหัวแปรงในการทำความสะอาด จะช่วยให้เอาสิ่งสกปรกออกง่ายขึ้นค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีการเลือกและ 10 อันดับเครื่องดูดฝุ่นในรถที่ทีมงานนำมาฝากกันในครั้งนี้ หวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับรถของตัวเองได้แล้ว
การทำความสะอาดรถด้วยการดูดฝุ่นนี้ไม่เพียงจะทำให้รถของเรามีสภาพน่าใช้งานเท่านั้นนะคะ แต่ยังช่วยให้ทั้งคนขับและผู้โดยสารมีสุขอนามัยที่ดี ลดการเกิดภูมิแพ้จากขนสัตว์ได้อีกด้วย ทราบวิธีทำความสะอาดภายในไปแล้วก็อย่าลืมใส่ใจภายนอกรถด้วยนะคะ เพราะรถก็เหมือนกับบ้านที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างดีที่สุดค่ะ