7 เทรนด์ ไมโครโฟน รุ่นไหนดี กด!! อัพเดทล่าสุดปี 2567

สายช้อปทั้งหลายกำเงินในมือแน่นๆ แล้วไปเตรียมช้อปกันเล้ยย สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
วันนี้ถ้าหากท่านสนใจ ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ ไมโครโฟน  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ไมโครโฟน  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว คุณภาพเยี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"ไมโครโฟน"นั้นโดยมีทั้ง ไมโครโฟน แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือไมโครโฟน ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาไมโครโฟนดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ ไมโครโฟนคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้

iPrice ประเทศไทย - รู้จักกันหรือยังกับไมโครโฟนประเภทต่าง ๆ

ไมโครโฟน อุปกรณ์ เครื่องเสียง ที่ช่วยแปลงสัญญาณเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า ซึ่งถูกนำมาใช้ทั้งในการอัดเสียง และการประชุมหรือพูดคุยผ่านเครือข่ายสัญญาณบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หากอยากได้แบบที่คุณภาพดี มีประสิทธิภาพเสียงดีเยี่ยมแล้วละก็ จะต้องเลือกไมโครโฟนที่สามารถแปลงสัญญาณเสียงได้ดีทุกย่านความถี่เสียง ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยีอันล้ำหน้าเพื่อให้ได้สัญญาณเสียงที่ดีเหมือนกับเสียงต้นกำเนิด และในเมื่อเสียงต้นกำเนิดนั้นไม่ได้มีลักษณะที่เหมือนกันไปเสียหมด ทำให้ต้องมีการใช้เทคโนโลยีในการแปลงสัญญาณเสียงที่ต่างกันไป จนเกิดเป็นไมโครโฟนหลายประเภทนั่นเอง โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น

  • ไมโครโฟนไดนามิก (Dynamic Microphone) ประกอบไปด้วยแม่เหล็กถาวร (Magnet), ไดอะแฟรม (Diaphragm), ขดลวด (Coil) สัญญาณที่ได้จากไมโครโฟนชนิดนี้เป็นขนาดความแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ต้องอาศัยเครื่องขยายเสียงในการขยายเสียงให้ดังขึ้น เรียกว่า พรีไมโครโฟน (Pre Microphone) โดยไมโครโฟนไดนามิกนั้นจะมีอิมพิแดนซ์ 600 โอห์ม ซึ่งมีความไวในทิศทางด้านหน้าและในรัศมีสั้น ๆ ประมาณ 4 ซม. เท่านั้น เหมาะกับการขับร้องที่สุด
  • ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ (Condenser Microphone) ประกอบด้วยแบตเตอรี่ (Battery), ไดอะแฟรม (Diaphragm), Back Plate, วงจรขยายสัญญาณ (Amplifier) ไมโครโฟนประเภทนี้จะต้องมีไฟฟ้า DC หรือกระแสไฟฟ้าตรงเลี้ยงจึงจะทำงานได้ มีแรงดันตั้งแต่ 5 ถึง 48 โวลต์ ไมโครโฟนชนิดนี้จะมีความไวเสียงมากเป็นพิเศษ และมีอิมพิแดนซ์ต่ำมาก สามารถตอบสนองต่อความถี่ปานกลางขึ้นไปได้ดี และสามารถรับทิศทางเสียงได้รอบทิศทาง
  • ไมโครโฟนคริสตัล (Crystal Microphone) ประกอบด้วยไดอะแฟรม (Diaphragm), แร่คริสตัลเป็นตัวกำเนิดไฟฟ้า , Back Plate, สายนำกระแสไฟฟ้าสัญญาณเสียง ไมโครโฟนชนิดนี้จะมีแรงดันสูงกว่าไมโครโฟนชนิดอื่น ๆ ทำให้มีค่าอิมพิแดนซ์สูงถึง 10 กิโลโอห์ม มักใช้กับเครื่องขยายเสียงรุ่นหลอด สามารถตอบสนองต่อความถี่เสียงกลางได้ดี แต่ไม่ได้รับความนิยมในการใช้งานมากนักในปัจจุบัน
  • ไมโครโฟนคาร์บอน (Carbon Microphone) เป็นไมโครโฟนยุคแรก ๆ ในวงการเครื่องเสียง ทำงานโดยอาศัยหลักการต้านทานของคาร์บอนที่เปลี่ยนค่าได้ตามความหนาแน่น ถ้าความหนาแน่นมากก็จะมีความต้านทานน้อยทำให้กระแสไฟไหลมาก แต่ถ้าความหนาแน่นน้อยจะมีความต้านทานมากทำให้กระแสไฟไหลได้น้อย เสียงที่ได้จะให้คุณภาพที่ดีมากในช่วงย่านความถี่ต่ำ แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันแล้วเช่นกัน

การใช้งานและดูแลรักษาไมโครโฟนให้ใช้งานได้ยาวนาน

  • หลีกเลี่ยงการเคาะหรือเป่าไมโครโฟนโดยเด็ดขาด
  • ไม่ควรให้ไมโครโฟนล้มหรือตกพื้น
  • ควรพูดไมโครโฟนให้ห่างจากตัวไมโครโฟนประมาณ 1 – 4 นิ้วสำหรับไมโครโฟนทั่วไป และพูดห่างจากไมโครโฟนประมาณ 6 – 12 นิ้วหากเป็นไมโครโฟนรับเสียงไว ไม่ควรพูดใกล้หรือห่างไมโครโฟนมากเกินไป
  • ไม่ควรใช้ไมโครโฟนใกล้กับเสียงรบกวนทั้งหลาย เช่น เสียงพัดลม เสียงเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
  • ติดตั้งไมโครโฟนให้ห่างจากลำโพง ไม่ควรให้อยู่ใกล้กัน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ให้หันหน้าลำโพงให้ตั้งฉากกับไมโครโฟนแทน
  • หลีกเลี่ยงไม่ให้ไมโครโฟนเปียกน้ำหรือโดนความชื้น
  • เมื่อใช้งานไมโครโฟนเสร็จแล้ว ควรเก็บใส่กล่องให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและการกระทบกระเทือนที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว