ผู้เขียนสมัยเด็ก ๆ เคยนึกสนุก อยากเข้าครัวทำอาหารอย่างที่ผู้ใหญ่ทำบ้าง แต่ด้วยความไม่ระวัง ทำให้น้ำมันกระเด็นใส่แขน จำความรู้สึกได้ว่าตอนนั้นทั้งแสบทั้งร้อน ต้องรีบวิ่งออกมาหาย่าที่อยู่หน้าบ้าน คนแก่กว่าหัวเราะอย่างไม่จริงจังพร้อมบอกให้ไปตัด “ว่านหางจระเข้” ที่หน้าบ้านมา จากนั้นย่าก็ฝานเปลือกออกจนเหลือแต่เนื้อใส ๆ แล้วป้ายที่แผลให้ พลันความแสบร้อนทุกอย่างก็หายไป เหลือแต่สัมผัสเย็น ๆ ของเนื้อสมุนไพร ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้รู้ว่า “ว่านหางจระเข้ช่วยลดการระคายเคือง”
เมื่อโตขึ้นถึงได้รู้ต่ออีกว่าสมุนไพรชนิดนี้ยังช่วย ลดอาการอักเสบที่เกิดจากสิว บรรเทาอาการผิวไหม้จากแสงแดดและคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้หลายแบรนด์สกินแคร์ออกเจลบำรุงว่านหางจระเข้มามากมาย ซึ่งในวันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปรู้จักกับ “วิธีการเลือก” ผลิตภัณฑ์สารพัดคุณประโยชน์ชนิดนี้ และ “10 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งจากราคา, คุณสมบัติ และรีวิว กันค่ะ เพื่อที่เราจะได้มีผิวที่สวยไร้ที่ติกัน
เอาล่ะค่ะ ถึงเวลาที่เพื่อน ๆ จะได้เรียนรู้วิธีการเลือกกันแล้ว แอบกระซิบว่าผลิตภัณฑ์นี้มีสิ่งที่ต้องคำนึงมากกว่าที่คิดนะคะ อย่าได้เลื่อนผ่านไปเฉย ๆ เชียว แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะยุ่งยาก ผู้เขียนการันตีว่าทำตามได้ง่ายมากเลยค่ะ ซึ่งจะมีรายละเอียดว่าอย่างไรบ้าง ตามมาอ่านกันเลย
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้วิธีเลือก ลำดับแรกมาทำความรู้จักน้องเขากันสักนิดดีกว่าค่ะ ว่านหางจระเข้จัดเป็นพืชในตระกูลลิเลี่ยม (Lilium) มีใบลักษณะยาวค่อนข้างหนาคล้ายเข็ม มีหนามเล็ก ๆ ที่ไม่คมกริบขึ้นอยู่รอบใบ และเนื้อสีใสด้านในจะมีเมือกเหนียวอยู่ ซึ่งนอกจากจะมีสรรพคุณตามที่ได้เกริ่นไปในตอนต้นแล้ว ยังมีสาร Aloin ช่วยเพิ่มการบีบตัวของลำไส้และป้องกันการดูดน้ำกลับจากอุจจาระ กระตุ้นให้การทำงานของระบบดูดซึมอาหารและขับถ่ายให้ดีขึ้น และสารมิวโคโพลีแซคคาไรด์ (Mucopolysaccharide) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและต้านการอักเสบให้แก่ผิวด้วย
นอกจากนี้ยังมีสารอื่น ๆ เช่น Saponin ซึ่งช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้อาการระคายเคือง/อาการแพ้ต่าง ๆ ดีขึ้น แต่ไม่ควรรับประทานสด ๆ นะคะ เพราะอาจทำลายผนังเซลล์เมล็ดเลือดแดงได้, วิตามินซี ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใส และมอยเจอร์ไรเซอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ใต้ชั้นผิวได้นานขึ้น
หลายคนมักจะเข้าใจว่าเจลว่านหางจระเข้จะต้องสกัดมาจากสมุนไพรเพียว ๆ 100% ทุกรุ่นเลย แต่ในความเป็นจริง ไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไปนะคะ ดังนั้นก่อนซื้อจึงควรอ่านส่วนผสมให้ดี โดยควรเลือกรุ่นที่มีสารสกัดจากธรรมชาติในอัตราส่วนที่มากกว่าสารสังเคราะห์อื่น ๆ หรือพูดสั้น ๆได้ว่า ลำดับของการระบุส่วนผสมในฉลากบ่งบอกถึงปริมาณที่ถูกใส่มาในเจลเมื่อเทียบกับส่วนผสมอื่น ๆ ทั้งหมด
นอกจากนี้ สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงรุ่นที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์, สารกันเสียพาราเบน, เบนโซฟิโนน, น้ำมันสกัดจากสัตว์, มิเนอรัล ออยล์ และสีสังเคราะห์ นะคะ เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
Warning : บางรุ่นยังมีสารกลุ่มโพลีเมอร์อย่าง “Dimethicone”, “Acrylic acid” และ “Cellulose” ที่มักจะใส่เพื่อช่วยให้เนื้อเจลเนียนลื่นน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น แต่อาจก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนจนเกิดสิวได้ ในขณะเดียวกัน บางรุ่นที่ใช้สำหรับทาสิวก็ต้องระวังสารต้านเชื้อแบคทีเรียบางตัวด้วยนะคะ เช่น Salicylic Acid ซึ่งแม้ว่าจะพบได้ตามธรรมชาติ แต่ถ้าใครผิวแห้งหรือบอบบางมากก็อาจรู้สึกแสบยิบ ๆ หรือเป็นผื่นแดงได้
สำหรับการเลือกครีมบำรุงผิวที่ใช้กับผิวโดยตรงนั้น คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารเติมแต่งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สารเติมแต่งที่มักจะถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ เช่น “พาราเบนหรือสารกันเสีย” และ “แอลกอฮอล์” รวมไปถึง สารสังเคราะห์ “Red 202” ที่เพิ่มสีเทียม สารเติมแต่งดังกล่าวถูกใส่ลงไปในส่วนผสมเพื่อ ความรู้สึกของการใช้งานที่ดีขึ้น และยังมีประโยชน์ เช่น ทำให้ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่หากคุณมีผิวบอบบางหรือผิวแพ้ง่าย เราแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารเติมแต่งให้น้อยที่สุดเพื่อความสบายใจในการใช้งาน
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับคำว่า “เวชสำอาง” ที่ได้ยินกันบ่อยเหลือเกินกันดีกว่าค่ะ เจ้าผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้จะรวมคุณสมบัติของ “เครื่องสำอาง” และ “ยา” เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมักได้รับการทดสอบทางการแพทย์แล้วเรียบร้อยว่าไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ในขณะที่สกินแคร์ทั่วไปจะเน้นบำรุงขั้นพื้นฐานเท่านั้น เช่น เพิ่มความชุ่มชื้นหรือขจัดสิ่งสกปรก ดังนั้นเวชสำอางจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการการดูแลที่เฉพาะเจาะจง หรือมีผิวบอบบางมากกว่าคนอื่น ๆ นั่นเองค่ะ
แม้ว่าแรกเริ่มปัจจัยนี้จะดูเหมือนไม่สำคัญและหลายคนก็มักจะคิดว่าเจลว่านหางจระเข้ก็คงมีเนื้อที่คล้ายกันหมด แต่เมื่อคุณได้ลองใช้จริง เรื่องนี้มีผลมากทีเดียวค่ะ เพราะบ่อยครั้งหลายคนเลิกใช้สกินแคร์ที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่นานเพราะไม่ชอบเนื้อสัมผัส เนื่องจากใช้แล้วไม่เข้ากับผิวหน้า เช่น หนักเกินไปจนทำให้อุดตัน, เหลวมากจนซึมซาบช้า หรือแม้แต่ซึบซาบไวมากจนได้รับความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ดังนั้นการทดสอบเนื้อสัมผัสก่อนจึงเป็นอีกสิ่งที่สำคัญ
คำถามต่อมาคือ “ซื้อออนไลน์แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเนื้อเป็นอย่างไร” ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่คุณอ่านรีวิวจากผู้ที่ใช้จริง โดยสังเกตจากการบรรยายความเกลี่ยง่ายและความช้าเร็วในการซึมซาบ เท่านี้ก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกับความต้องการแล้วค่ะ
Tip : แม้บทความนี้จะพูดถึงเจลว่านหางจระเข้เพียงอย่างเดียว แต่ทุกวันนี้มีสกินแคร์ที่สกัดจากสมุนไพรชนิดนี้อยู่เยอะเลยค่ะ ซึ่งเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกันทำให้เหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไปด้วย ถ้าคุณผิวไหม้จากแดดให้ใช้สกินแคร์เนื้อเจล แต่ถ้าหัวเข่าและศอกด้านให้ทาเนื้อครีม โดยความหนาขึ้นอยู่กับปริมาณความชุ่มชื้นที่เราต้องการ เพียงเท่านี้การดูแลผิวพรรณก็จะเป็นเรื่องง่ายแล้วค่ะ
ในที่นี้ไม่ได้ความว่าของดีต้อง “ราคาถูก” และ “ปริมาณเยอะ” เสมอไปนะคะ แต่ต้องดูปริมาณที่เราใช้, ความถี่ในการทา, ระยะเวลาที่เห็นผล และลักษณะผิวพรรณของเราด้วย เพราะปัญหาผิวที่เปลี่ยนไป ทำให้ความต้องการของเราถูกปรับเปลี่ยนตามไปด้วย เช่น บางคนซื้อเพื่อบำรุงผมอย่างเดียว ซึ่งตามธรรมชาติเราไม่ต้องบำรุงกันทุกวัน และแต่ละครั้งก็ใช้ไม่เยอะมาก ดังนั้นคุณจะลงทุนซื้อรุ่นเกรดพรีเมี่ยม, ปริมาณประมาณหนึ่ง และราคาสูงก็ได้ เพราะใช้แล้วเห็นผลได้เร็วและเก็บไว้ใช้ได้นานกว่า เป็นต้น
หลายคนคงเริ่มมองภาพออกบ้างแล้ว จากนี้ไปก่อนการเลือกซื้อสกินแคร์หรือเครื่องสำอางใด ๆ ก็ตาม ลองสำรวจความต้องการของตัวเองกันก่อนนะคะ แล้วค่อยพิจารณาราคาของรุ่นนั้น ๆ ว่าเหมาะสมกับการใช้งานของเราไหม
มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้เป็นเนื้อเจลค่ะ พอทาลงผิวแล้วจะเย็นๆ ยิ่งแช่เย็นไว้นี่จะฟินสุดๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้ามัน มีสิว และสำหรับนักศึกษาเพราะมันราคาดีมาก ด้วยคุณภาพขนาดนี้ แถมสารสกัดของเขายังไร้สารเคมี เป็นธรรมชาติล้วนๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นใบบัวบก ว่านหางจระเข้ แตงกวา ซึ่งช่วยลดอาการอักเสบของสิว มอบความชุ่มชื้นและลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ
ใครที่ผิวหน้าแพ้อยู่หรือเป็นสิวก็ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรืออุดตันเพิ่ม ใช้แล้วหน้ามันลดลง คุมความมันบนใบหน้าได้ดี แต่สำหรับใครที่ผิวแห้งมากๆ แคตแนะนำตัวคิวเรลมากกว่านะคะ อันนี้จะเหมาะสำหรับผิวมันมากกว่า หรือจะทาตัวนี้ตรงทีโซนและทาคิวเรลตรงส่วนที่เหลือก็ได้ค่ะ (วิธีใช้ของแคตเอง)
และแล้วก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ลำดับต่อไปเราไปอ่านข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจและได้รับความไว้วางใจจากเพื่อน ๆ อีกหลายคนกันดีกว่าค่ะ แต่อย่าลืมนะคะ เลือกโดยใช้ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก อย่ายึดติดกับอันดับอย่างเดียวนะจ๊ะ เพราะของที่เหมาะกับคนอื่น อาจจะไม่เข้ากับเราก็ได้นะคะ
ปกติเรามักจะคุ้นเคยกับเจลว่านหางจระเข้แบบกระปุก แต่รุุ่นนี้พิเศษกว่านั้นค่ะ ด้วยการรวมคุณสมบัติของสเปรย์น้ำแร่และเจลบำรุงไว้ด้วยกัน แถมยังอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ 90%, ชา และแตงกวา ช่วยลดอาการแสบร้อนและระคายเคืองผิว นอกจากนี้ยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวรู้สึกสดชื่นขึ้นอีกด้วย ขณะเดียวกันก็ใช้งานง่ายเพียงแค่ฉีดสเปรย์ลงบนผิวบริเวณที่ต้องการ โดยสามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย ผู้ที่ใช้จริงต่างรีวิวไว้ว่าเนื้อเจลซึมซาบได้ไวโดยไม่ทิ้งความมันบนใบหน้า แต่ยังมีข้อเสียเล็กน้อย คือ ละอองน้ำไม่ค่อยละเอียดและมีส่วนผสมของ Alcohol Denat และ Methylparaben ดังนั้นผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมากควรหลีกเลี่ยงนะคะ
ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเลยค่ะ เพราะนอกจากจะมีส่วนผสมจากสารสกัดว่านหางจระเข้แท้ 99% ที่ช่วยปลอบประโลมและเติมน้ำให้กับผิวแล้ว ยังผสานคุณค่าจากเซรั่มเมือกหอยทากเข้มข้น ช่วยปรับลดเลือนรอยแดงและรอยแผล พร้อมเผยผิวให้กระจ่างใสและเนียนนุ่ม ที่สำคัญปราศจากสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองทั้ง 5 ชนิด ได้แก่แอลกอฮอล์, สี, ซิลิโคน, สารกันเสียและน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีให้เลือกหลายไซซ์ ครอบคลุมทุกการใช้งาน หลายคนที่ใช้จริงต่างชื่นชอบในเนื้อเจลที่เนียนลื่น เกลี่ยง่ายและซึมซาบไว ทาแล้วไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ อย่างไรก็ตาม บางคนยังบ่นอยู่ว่ามีกลิ่นน้ำหอมแรงไป จึงไม่เหมาะกับคนแพ้ง่ายและผิวแห้ง
ใครที่ตามหาเจลว่านหางจระเข้เข้มข้นต้องมาอ่านข้อมูลรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเขามีความเข้มข้นถึง 100% แถมยังปราศจากสารเคมีทั้ง 6 ชนิด ได้แก่ สารกันเสียพาราเบน, สีสังเคราะห์, Benzophenone, น้ำมันแร่, ซิลิโคน และแอลกอฮอล์ จึงใช้ได้แม้ผิวบอบบาง โดยสามารถใช้ทาได้ทั่วทั้งร่าง นอกจากนี้ยังมีราคาย่อมเยา ทำให้หลาย ๆ คนเลือกซื้อ นอกจากสรรพคุณทั่วไปของว่านหางจระเข้แล้ว บางคนที่ใช้จริงยังบอกอีกด้วยว่ารู้สึกสิวแห้งเร็วและใบหน้าเต่งตึงขึ้น เหมาะกับผู้ที่ปัญหาผิวเล็กน้อยหรือคนที่เพิ่งอยากลองใช้เจลว่านหางจระเข้เป็นครั้งแรก
รุ่นนี้พิเศษด้วยสารสกัดจากธรรมชาติมากมาย เช่น เนื้อว่านหางจระเข้ออร์แกนิคที่ถูกปลูกบนเกาะเชจู, ใบคาเมลเลีย, ดอกกระบองเพชร และเปลือกส้ม ทำให้อุดมไปด้วยกรดอะมิโนและสารมาดิคาสโซไซด์ ช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่อ่อนล้าให้กลับมาแข็งแรงและคืนความชุ่มชื้น ทำให้เซลล์เต่งตึงอีกครั้ง โดยสามารถลูบไล้ได้ทั่วทั้งร่างกาย ตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า แพ็กเกจของรุ่นนี้เป็นแบบหลอด ทำให้ใช้งานสะดวกขึ้น ส่วนเรื่องผลลัพธ์หลังการใช้งานหลายคนต่างรีวิวว่าเจลอ่อนโยนต่อผิวมาก แม้ทาผิวบริเวณที่บอบบางยังไม่แสบ และยังซึมซาบไวไม่หนักผิวอีกด้วย
รุ่นนี้เหมาะสำหรับคนไทยมากเลยค่ะ เพราะเป็นสูตรช่วยปลอบประโลมผิวที่ถูกแสงแดดทำร้ายโดยเฉพาะ ด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้ออร์แกนิคเข้มข้นมากถึง 100% พร้อมน้ำแร่ธรรมชาติจากฝรั่งเศสและน้ำมันมะพร้าวออร์แกนิค ซึ่งมีเทคโนโลยี Particles Pollustop เพื่อสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะภายนอก อันเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระคายเคือง มาดูแพ็กเกจของรุ่นนี้กันบ้าง แม้ว่าจะมีให้เลือกเพียงไซซ์เดียว แต่ด้วยรูปลักษณ์แบบหลอดทำให้บีบใช้ง่ายและเหมาะกับการเดินทางมากกว่าแบบกระปุกค่ะ ส่วนผลลัพธ์หลังใช้งาน หลายคนบอกว่าเนื้อเจลเนียนลื่นเกลี่ยง่าย ทาแล้วซึมซาบไว และยังช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดีเยี่ยม แม้ผิวแห้งก็สามารถใช้ได้
ต้องบอกก่อนว่าแบรนด์นี้จะเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชสำอางนะคะ รุ่นนี้จึงเหมาะกับการใช้ทาผิวหลังออกแดดมากกว่าวัตถุประสงค์อื่น โดยมีส่วนผสมหลักจากสารสกัดว่านหางจระเข้ในสหรัฐอเมริกา ด้วยความเข้มข้นถึง 99.5% เมื่อทาแล้วจะมีฟิล์มมอยส์เจอร์ไรเซอร์บาง ๆ เคลือบผิว ทำหน้าที่คอยคืนความชุ่มชื้นและลดการสูญเสียน้ำในเซลล์ นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีหลายไซซ์ให้เลือกซื้อ ตามที่ได้เกริ่นไป เนื้อรุ่นนี้ค่อนข้างเข้มข้น ทำให้หลังจากทาแล้วจะรู้สึกเหนอะหนะนิดนึง ต้องรอเวลาให้เจลซึมซาบ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย ใครที่ผิวแพ้ง่ายแนะนำให้เลี่ยงการใช้กับผิวหน้า
เรื่องน่ารู้ : แบรนด์นี้มีอีกหลายสูตรให้เลือกซื้อ ใครที่ต้องการการดูแลเฉพาะทางด้านอื่น ๆ ลองไปหาดูกันได้นะจ๊ะ
อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับคนไทย เพราะเป็นสูตรฟื้นฟูผิวหลังออกแดดโดยเฉพาะ ด้วยสารสกัดจากว่านหางจระเข้และแตงกวาช่วยเติมน้ำให้กับเซลล์ผิว บรรเทาอาการระคายเคืองหลังถูกแสงแดดทำร้ายและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอทั่วทั้งเรือนร่าง โดยมีหลายขนาดให้เลือกซื้อและมีแพ็กเกจทั้งแบบหลอดและขวด จึงช่วยให้ใช้งานสะดวก เหมาะกับการเดินทาง อย่างไรก็ตามรุ่นนี้มีส่วนผสมของน้ำหอม, สีเติมแต่ง และ SD Alcohol 40 (ช่วยกำจัดแบคทีเรียแต่ทำให้ผิวแห้งตึง) ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือบอบบางแพ้ง่ายมากนะคะ เพราะอาจกระตุ้นให้ระคายเคืองได้
ถ้าพูดถึงสกินแคร์แบบซองที่มีขายในเซเว่นหลายคนจะต้องนึกถึงตัวนี้เป็นอันดับแรก ๆ เลยค่ะ เพราะด้วยความที่มีส่วนผสมหลักจากสารสกัดว่านหางจระเข้เข้มข้น 99.5% ผสานด้วยคุณค่าจากวิตามินอีและสารสกัดจากเมือกหอยทาก จึงช่วยฟื้นฟูผิวขาดน้ำหรือที่ระคายเคืองจากแสงแดดให้กลับมาสุขภาพดีขึ้น พร้อมช่วยลดการเกิดสิวและเร่งให้รอยสิวจางลง นอกจากนี้ยังปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย สำหรับลักษณะผลิตภัณฑ์ รุ่นนี้มีเนื้อเจลสีใส หอมกลิ่นว่านหางจระเข้อ่อน ๆ เมื่อทาแล้วแทรกซึมลงสู่ผิวได้ไวและค่อนข้างอ่อนโยน ปัจจุบันมีวางขายแค่แบบซองอย่างเดียว แต่ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายและเหมาะกับการเดินทาง
ความน่าสนใจของรุ่นนี้คือนอกจากจะมีส่วนผสมจากว่านหางจระเข้เข้มข้นถึง 100% ยังปราศจากแอลกอฮอล์, พาราเบน และมิเนอรัล ออยล์ เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ็กเกจออกแบบมาเป็นกระปุกสำหรับใช้ที่บ้าน โดยมีสรรพคุณเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ช่วยเติมน้ำให้เซลล์และลดการระคายเคืองของผิว นอกจากนี้ถ้ายิ่งนำไปแช่เย็น ความเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขนด้วยนะจ๊ะ เนื้อสีใสมีความเข้มข้น ช่วยให้เกลี่ยง่าย ทาแล้วซึมซาบไวไม่เหนียวเหนอะหนะผิว หลังใช้แล้วรู้สึกผิวสดชื่นขึ้นทันทีและเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องพบว่าสิวผดลดลง
สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกว่านอกจากจะได้รับความนิยมสูงแล้วยังเป็นเจลว่านหางจระเข้รุ่นแรก ๆ ที่ออกมาอีกด้วยค่ะ ด้วยจุดเด่นจากสารสกัดว่านหางจระเข้เข้มข้นถึง 92% ช่วยคืนความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่อ่อนล้า พร้อมลดเลือนรอยแดง ทั้งยังช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มลื่นขณะไดร์ได้ด้วย คุ้มค่าสุด ๆ ในกระปุกเดียว เหมาะกับทุกสภาพผิว รุ่นนี้มีเนื้อเจลสีใส กลิ่นหอมว่านหางจระเข้อ่อน ๆ ค่อนข้างเนียนลื่น เกลี่ยไปกับผิวได้ง่าย และซึบซาบไว เมื่อทาเป็นประจำพบว่าสิวลดน้อยลงและผิวยังเนียนนุ่มขึ้น
หลายคนคงเห็นแล้วว่า “เจลว่านหางจระเข้” เปรียบเสมือนสกินแคร์ครอบจักรวาลกันเลยทีเดียว เพราะใช้บำรุงได้ทั่วทั้งร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จึงเหมาะกับผู้ที่มีเวลาดูแลตัวเองน้อยหรือต้องการประหยัดงบในการดูแลผิว โดยมีวิธีเลือกซื้อง่าย ๆ ด้วยการดูจากส่วนผสมว่ามีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน, เนื้อสัมผัส และราคาของรุ่นนั้น ๆ ว่าคุ้มค่าไหม เพียงเท่านี้เราก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเราแล้วค่ะ
ก่อนจะจากกันวันนี้ ผู้เขียนแอบกระซิบเคล็ดลับการใช้นิดนึงว่า ถ้าใครอยากได้ความรู้สึกที่สดชื่นและเย็นสบายขณะใช้ แนะนำให้ลองนำไปแช่ตู้เย็นดูนะคะ เมื่อทาไปแล้วรับรองว่าจะช่วยผ่อนคลายความรู้สึกเหนื่อยล้าของเราได้ดีเลยค่ะ